กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถก “เวิลด์แบงก์” สร้างความเข้าใจถึงตัวชี้วัดบริการเริ่มต้นธุรกิจ ระบุคลาดเคลื่อนความเป็นจริง เชื่อหากเข้าใจขั้นตอนถูกต้อง อันดับบริการเริ่มต้นธุรกิจของไทยปี 2016 จะขยับสูงขึ้น
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการจัดอันดับการให้บริการในการเริ่มต้นธุรกิจ หรือ Doing Business 2015 ของของธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ ( World Bank) เนื่องจากเห็นว่าเป็นการสะท้อนถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจ การอำนวยความสะดวก การให้บริการด้านธุรกิจของไทย ซึ่งมีผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั่วโลก โดยในปี 2015 ได้จัดอันดับประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 75 ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ในอันดับที่ 68 ซึ่งเป็นผลมาจากการนำขั้นตอนการยื่นสำเนาข้อบังคับการทำงานที่บริษัทต้องยื่นต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวชี้วัดการเริ่มต้นจดทะเบียนธุรกิจ
ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงร่วมประชุมกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และตัวแทนเวิลด์แบงก์ประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงขั้นตอนที่แท้จริงในการให้บริการจดทะเบียนธุรกิจของไทยให้ผู้แทนเวิลด์แบงก์ได้รับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งปัจจุบันไทยสามารถลดขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจในประเทศไทยจากเดิม 27.5 วัน เหลือเพียง 3 วันแล้ว โดยการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเสร็จสมบูรณ์ ใน 4 ขั้นตอน เมื่อใช้ระบบ e-Registration ได้แก่ การจองชื่อบริษัท การชำระเงินทุนเข้าธนาคาร การจัดทำตรายาง และการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท การขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี การขอเลขที่บัญชีนายจ้าง รวมใช้เวลาเพียง 3 วัน ขณะที่เวิลด์แบงก์ได้รวมขั้นตอนการประกาศข้อบังคับการทำงาน ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 21 วัน รวมเข้าไปในกระบวนการด้วย ทำให้คำนวณว่าไทยต้องใช้เวลานานถึง 27.5 วันในการเริ่มต้นทำธุรกิจ
สำหรับความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการเข้าใจผิดของหน่วยปฏิบัติและผู้ให้ข้อมูลต่อเวิล์ดแบงก์ ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ออกประกาศ เรื่อง การจัดทำข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ชี้แจงให้ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าใจถึงข้อเท็จจริงและขั้นตอนปฏิบัติที่ถูกต้อง
จากเหตุและข้อเท็จจริงดังกล่าว กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและผู้เกี่ยวข้องกับการให้บริการการเริ่มต้นธุรกิจ ได้ขอให้ เวิลด์แบงก์ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจของไทยใหม่ และทบทวนการจัดอันดับที่จะประกาศ ในปี 2016 ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
นางสาวผ่องพรรณ กล่าวด้วยว่า จากการหารือทางเจ้าหน้าที่เวิลด์แบงก์ประจำประเทศไทยรับปากจะนำข้อมูลดังกล่าวรายงานกลับไปยังสำนักงานใหญ่ หากทางสำนักงานใหญ่รับฟังข้อมูลดังกล่าวการจัดอันดับของไทยปี 2016 จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *