นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า หลังจากทราบผลการจัดอันดับการเริ่มต้นธุรกิจ (Doing Business) ปี 2016 ของธนาคารโลกแล้ว ยอมรับยังไม่ค่อยพอใจอันดับที่ประเทศไทยได้รับ ซึ่งขยับลงจากปี 2015 จากอันดับที่ 91 ลดลงเป็นอันดับที่ 96 เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ปรับปรุงการให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดขั้นตอน ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายของภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็น การให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของกรมสรรพากร ขึ้นทะเบียนนายจ้างของสำนักงานประกันสังคม รวมทั้งยื่นสำเนาข้อบังคับการทำงาน กรณีมีลูกจ้างมากกว่า 10 คนขึ้นไป ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ณ จุดเดียว (Single point) ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้กรมฯ สามารถให้บริการจองชื่อนิติบุคคลทางอินเทอร์เน็ตและบริการจดทะเบียนได้ ภายใน 80 นาที รวมถึงเตรียมนำเทคโนโลยีมาให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร (e-Registration) ภายในปี 2560
น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวอีกว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญกับการจัดอันดับการเริ่มต้นธุรกิจ หรือ Doing Business ของ World Bank มากเนื่องจากเป็นการสะท้อนถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจ การอำนวยความสะดวกด้านการเริ่มต้นธุรกิจของไทย ซึ่งมีผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากทั่วโลก โดยในปี 2016 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 96 ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ในอันดับที่ 91 ซึ่งเป็นผลมาจากการนำขั้นตอนการยื่นสำเนาข้อบังคับการทำงานที่บริษัทต้องยื่นต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวชี้วัดการเริ่มต้นจดทะเบียนธุรกิจ โดยระบุว่าใช้เวลาดำเนินงานถึง 21 วัน ซึ่งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2558 กรมฯ ได้เชิญกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ก.พ.ร. และผู้ให้ข้อมูลต่อ World Bank มาประชุมเพื่อชี้แจงถึงขั้นตอนที่แท้จริงในการให้บริการจดทะเบียนธุรกิจของไทยให้ผู้แทน World Bank ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันแล้ว
น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวอีกว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญกับการจัดอันดับการเริ่มต้นธุรกิจ หรือ Doing Business ของ World Bank มากเนื่องจากเป็นการสะท้อนถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจ การอำนวยความสะดวกด้านการเริ่มต้นธุรกิจของไทย ซึ่งมีผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากทั่วโลก โดยในปี 2016 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 96 ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ในอันดับที่ 91 ซึ่งเป็นผลมาจากการนำขั้นตอนการยื่นสำเนาข้อบังคับการทำงานที่บริษัทต้องยื่นต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวชี้วัดการเริ่มต้นจดทะเบียนธุรกิจ โดยระบุว่าใช้เวลาดำเนินงานถึง 21 วัน ซึ่งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2558 กรมฯ ได้เชิญกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ก.พ.ร. และผู้ให้ข้อมูลต่อ World Bank มาประชุมเพื่อชี้แจงถึงขั้นตอนที่แท้จริงในการให้บริการจดทะเบียนธุรกิจของไทยให้ผู้แทน World Bank ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันแล้ว