xs
xsm
sm
md
lg

“กรมพัฒน์” อำนวยความสะดวกธุรกิจ ประกาศลดเอกสารยื่นขอเพิ่มและลดสาขาธุรกิจ และเพิ่มบุคคลลงลายมือชื่อในการขอตั้งบริษัทใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” เพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ออกประกาศใหม่ 2 ฉบับ ลดเอกสารประกอบการยื่นขอเพิ่มและลดสาขาธุรกิจ และเพิ่มบุคคลที่ผู้ขอจดทะเบียนสามารถลงลายมือชื่อต่อหน้าได้

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกประกาศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ โดยได้ประกาศลดจำนวนเอกสารประกอบการยื่นขอจดทะเบียนเพิ่มและลดสาขาธุรกิจ จากเดิมต้องพิมพ์จำนวนสาขาที่มีทั้งหมด แต่ปัจจุบันให้แจ้งเฉพาะสาขาใหม่ หรือที่ต้องการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกเท่านั้น และยังได้ออกประกาศเพิ่มจำนวนบุคคลที่ผู้ขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด สามารถลงลายมือชื่อต่อหน้าได้อีก 57,524 คน ทำให้ขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 196,923 คน

“การดำเนินการดังกล่าวเป็นการอำนวยความสะดวก ลดเวลา ลดค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจ และยังจะมีส่วนในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ”

สำหรับรายละเอียดของประกาศทั้ง 2 ฉบับ มีดังนี้ 1. หลักเกณฑ์และวิธีการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมสำนักงานสาขาของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2558 โดยมีสาระสำคัญ คือ เดิมการจดทะเบียนเพิ่มเติม หรือลดสาขาของธุรกิจ จำเป็นต้องพิมพ์จำนวนสาขาทั้งหมดในแบบรายการจดทะเบียน ซึ่งภาคธุรกิจต้องกรอกเอกสารเป็นจำนวนมาก ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากขึ้น กรมฯ จึงได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติให้สอดคล้องกับยุคสมัย โดยให้นิติบุคคลที่ต้องการจดทะเบียนเพิ่มเติม หรือลดสาขาของธุรกิจ ให้แจ้งเฉพาะสาขาที่ประสงค์จะขอแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกเท่านั้น โดยไม่ต้องระบุสำนักงานสาขาเดิมทั้งหมด ซึ่งเป็นการลดภาระในการจัดทำเอกสารและเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ

2. กำหนดบุคคลที่ผู้ขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดจะลงลายมือชื่อต่อหน้าได้พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2558 โดยมีสาระสำคัญ คือ เพิ่มจำนวนบุคคลที่ผู้ขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน และบริษัทจำกัด จะลงลายมือชื่อต่อหน้าได้อีก 57,524 คน ซึ่งเดิมมีอยู่ 139,399 คน ทำให้ขณะนี้มีบุคคลที่จะลงลายมือชื่อต่อหน้าได้จำนวนทั้งสิ้น 196,923 คน ครอบคลุมนิติบุคคลกว่า 620,000 รายทั่วประเทศ เฉลี่ยผู้รับรองลายมือชื่อ 1 คน ต่อนิติบุคคล 3 ราย โดยดึงหน่วยงานพันธมิตร ทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาวิชาชีพบัญชี และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอำนวยความสะดวกในครั้งนี้ ได้แก่ หอการค้าไทย หอการค้าจังหวัด หอการค้าต่างประเทศที่จดทะเบียนในไทย สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และผู้ทำบัญชีที่เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีหรือขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพบัญชี

น.ส.ผ่องพรรณกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากรมฯ ได้ทำการปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการจดทะเบียนธุรกิจเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การจองชื่อ และตรวจแบบคำขอผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การลดระยะเวลาการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจจาก 20 วัน เหลือเพียง 60 นาที และในอนาคตอันใกล้ จะนำระบบการจดทะเบียนทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการจดทะเบียนธุรกิจ

“ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจให้ได้รับการบริการที่รวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย และที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ต้องการให้ข้อมูลการจดทะเบียนมีความถูกต้อง น่าเชื่อถือ เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง โดยสามารถนำข้อมูลการจดทะเบียนไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น