ญี่ปุ่นไม่ยอมจีน เตรียมเปิดทดลองเดินรถขนส่งสินค้า เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ จากหนองปลาดุก-แหลมฉบัง 27 ม.ค. 59 เพื่อทดสอบคุณภาพรางขนาด 1 เมตร และเป็นการเริ่มต้นความร่วมมือรถไฟไทย-ญี่ปุ่น ก่อนเดินหน้าพัฒนาเป็นระบบทางคู่ และตั้งบริษัทร่วมทุนเดินรถ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การพัฒนาเส้นทางรถไฟแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกตอนใต้ (Lower East-West Corridor) เส้นทางกาญจนบุรี (บ้านพุน้ำร้อน)-กรุงเทพฯ-แหลมฉบังและกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ ระยะทาง 574 กม. ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ลงนามในร่างบันทึกความร่วมมือ (MOC) กับกระทรวงที่ดินโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่นนั้น ซึ่งในระยะแรกจะมีการปรับปรุงเส้นทางได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนราง เปลี่ยนหมอนเป็นช่วงๆ เพื่อเปิดทดลองเดินรถขนส่งสินค้าในช่วงปลายเดือน ม.ค. 59
โดยจะใช้รถไฟของญี่ปุ่นทั้งหัวจักร และแคร่ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 12 ฟุตในการทดลองเดินรถสินค้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางญี่ปุ่นต้องการให้เป็นการทดลองวิ่งรถเปล่า แต่ฝ่ายไทยเห็นว่าควรต้องทดลองขนส่งสินค้าจริงๆ ซึ่งจากที่ได้หารือกับทางผู้ประกอบการเอกชน เช่น กลุ่มน้ำตาล แป้ง แสดงความสนใจที่จะนำสินค้ามาใช้บริการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อเตรียมขนส่งสินค้า และจะทำให้เห็นภาพจริงว่าเมื่อเดินรถสินค้าในเส้นทางนี้ โดยได้มีการปรับปรุงความแข็งแรงของทางและรางแล้วขีดความสามารถขนส่งสินค้าเป็นอย่างไร ส่วนระยะที่ 2 จะเป็นการก่อสร้างเป็นทางคู่ ซึ่งเส้นทางจะต้องก่อสร้างเชื่อมไปที่ทวายด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า จะมีพิธีเริ่มต้นโครงการความร่วมมือรถไฟไทย-ญี่ปุ่น ในวันที่ 27 ม.ค. 2559 ที่สถานีหนองปลาดุก และทดลองการยกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 12 ฟุต จำนวน 3 ตู้ ซึ่งทางญี่ปุ่นจะนำเข้ามาทดลองเดินรถขนส่งสินค้าเส้นทางหนองปลาดุก-ท่าเรือแหลมฉบัง
สำหรับความร่วมมือเพื่อพัฒนาเส้นทางรถไฟแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกตอนใต้ (Lower East-West Corridor) เส้นทางกาญจนบุรี (บ้านพุน้ำร้อน)-กรุงเทพฯ-แหลมฉบังและกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ ระหว่างไทย-ญี่ปุ่นนั้น จะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อบริหารการเดินรถ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะต้องเสนอแนวทางการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เช่น เรื่องสัดส่วนหุ้นและขอบเขตของธุรกิจของบริษัทร่วมทุนภายในต้นปี 2559
นอกจากนี้ จะมีการก่อสร้างเส้นทางช่วงที่ขาดอยู่ประมาณ 42 กม. แบ่งเป็นช่วงจาก กาญจนบุรี-พุน้ำร้อน ระยะทาง 26 กม. และช่วงอรัญประเทศ-คลองลึก ระยะทาง 6 กม. โดยนโยบายแล้วแนวเส้นทางรถไฟแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกตอนใต้ถือเป็นเส้นทางสำคัญมาก เนื่องจากผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ 4 เขต คือ เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (พม่า) เขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรี ซูเปอร์คลัสเตอร์อีสเทิร์นซีบอร์ด เขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว และเชื่อมท่าเรือน้ำลึก 2 แห่ง คือ ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือทวาย อีกทั้งยังสามารถพัฒนาได้รวดเร็ว เนื่องจากมีแนวเส้นทางรถไฟขนาดราง 1 เมตรเดิมอยู่แล้ว
