สนข.ระดมความเห็นปรับการศึกษารถไฟความเร็วสูง 250 กม./ชม.เป็นรถไฟทางคู่ ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร ความเร็ว 180 กม./ชม. เตรียมจ้างที่ปรึกษาเดินหน้ารถไฟทางคู่ 2 สายใหม่วงเงิน 350 ล้านใน ต.ค.นี้ พร้อมรูปแบบลงทุนที่เหมาะสม เผยจีนยังสนใจสานต่อข้อตกลงเดิมเสนอลงทุนความเร็วสูงซึ่งต้องอยู่ที่นโยบาย
นายชาญชัย สุวิสุทธะกุล รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “การพัฒนารถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน Standard Gauge ความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับระบบรถไฟความเร็วสูงในอนาคต” วานนี้ (27 ส.ค.) ว่า เบื้องต้นการออกแบบแนวเส้นทางและงานโยธาการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเดิมมีการเผื่อรัศมีโค้งและความลาดชันไว้แล้ว ส่วนระบบอาณัติสัญญาณและการบำรุงรักษาเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งมาประกอบ ทั้งด้านการคาดการณ์ปริมาณการขนส่งทางรางของประเทศไทย ด้านโครงสร้างทางรถไฟ Conventional standards rail และด้านการพัฒนาเป็นระบบรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย ซึ่งมีหลายประเทศสามารถพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ให้รองรับระบบรถไฟความเร็วสูงได้เช่นในยุโรป และเกาหลีใต้
ทั้งนี้ ระบบรางของไทยมุ่งเน้นขนส่งทั้งคนและสินค้า ซึ่งแผนระยะเร่งด่วนในการพัฒนารถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐานแนวทางใหม่ ประกอบด้วย เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-สระบุรี-แหลมฉบัง-มาบตาพุด ระยะทาง 737 กิโลเมตร วงเงิน 392,570 ล้านบาท และเส้นทางเชียงของ-เด่นชัย-บ้านภาชี ระยะทาง 655 กิโลเมตร วงเงิน 348,890 ล้านบาท ดำเนินงานปี 58-64 ซึ่งทั้งสองเส้นทางสามารถเชื่อมโยงการเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านและจากจีนตอนใต้สอดคล้องกับแผนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงของจีนมายัง สปป.ลาว และในอนาคตประเทศไทยจะมีการพัฒนารถไฟทางคู่ไปยังปาดังเบซาร์ และจะเชื่อมโยงกับเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก หรือ East-West Economic Corridor
ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า การปรับรูปแบบการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงความเร็ว 250 กม.ต่อ ชม. มาเป็นการพัฒนารถไฟทางคู่รางมาตรฐานความเร็ว 180 กม.ต่อ ชม.จะประหยัดงบประมาณลงส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะค่าตัวรถที่ต่างกัน และจะทบทวนในเรื่องเทคนิค ตัวรางซึ่งเบื้องต้นไม่มีปัญหา โดย สนข.อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 2 ช่วง พิษณุโลก-เชียงใหม่ เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวมาประกอบการจัดทำโครงการรถไฟทางคู่รางมาตรฐานใน 2 เส้นทางใหม่ ซึ่งภายใน 2 เดือนนี้ สนข.จะว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาในด้านความคุ้มค่าการลงทุนทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และรูปแบบการลงทุน วงเงินรวม 350 ล้านบาท ใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี
โดยรูปแบบการลงทุนนั้นต้องนำการตั้งกรมการขนส่งทางรางมาร่วมพิจารณาด้วย ซึ่งตามแผนกรมรางจะเป็นผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยอาจจะใช้ได้ทั้งงบประมาณ เงินกู้ หรือเงินจากกองทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการเดินรถจะเป็นการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และบริษัทเอกชนก็ได้ ส่วนข้อตกลงความร่วมมือกับจีนเดิมที่สนใจจะเข้ามาลงทุนรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางหนองคาย-โคราช ซึ่งจะเชื่อมกับรถไฟจากจีนผ่านมาทางเวียงจันทน์ สปป.ลาว นั้น อยู่ที่ระดับนโยบาย ซึ่งล่าสุดทูตพาณิชย์จีนได้เข้าพบนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือถึงความร่วมมือเดิมแล้ว