MGRออนไลน์ -- รัฐบาลต้องการจะให้เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับชาวเมืองหลวง แต่ผลการหยั่งเสียงดูจะไม่เป็นเช่นนั้น สำหรับรถไฟฟ้าสายแรกของกรุงฮานอย ผลที่ประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ปรากฏว่า ผู้ใช้ไม่ชอบใจในเรื่องสำคัญๆ หลายเรื่องเกี่ยวกับตัวรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งแรกที่ทุกคนจะได้เห็นในชีวิตประจำวัน นั่นก็คือสีของรถ ที่ทำให้ส่วนหัวดูเหมือนหัวแมลงบางชนิด
รถไฟฟ้ากรุงฮานอยทุกขบวนทาส่วนหัวเป็นสีเขียวสดๆ ไม่มีสีอื่นเจือปน ลำตัวสลับสีเทามิลเลนเนียม ไปซ้ำกับสีรถบัสแอร์พอร์ตลิงค์ แต่ถึงกระนั้นรัฐวิสากิจที่กำกับดูแลการก่อสร้างก็บอกว่า ผู้ที่ไปให้ความเห็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ระบุสีที่ต้องการจะให้เปลี่ยน ซ้ำยังขัดกันเองอีกด้วย ทำให้ไม่สามารถจะเปลี่ยนให้ได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ผู้คนเป็นกังวลมากก็คือ ราวจับยึดสำหรับยืนโดยสาร ซึ่งหลายคนบอกว่าสูงเกินไป แต่อีกส่วนหนึ่งบอกว่า ยื่นลงมาต่ำเกินไปเสียด้วยซ้ำ แต่แม้ว่าจะขัดแย้งกันในเรื่องระดับสูง/ต่ำ สิ่งที่ทุกคนเห็นเป็นเอกฉันท์กันก็คือ ราวจับสำหรับยืนโหนอยู่ชิดแถวนั่งมากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้คนยืนกับคนนั่งโดยสารมีปัญหาระหว่างกันได้
นี่คือระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขนาดเบา สายก๊าตลีง-ห่าโดง (Cat Linh- Ha Dong) หรือสายตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งเป็นสายที่ 4 จากโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองหลวง จำนวน 5 โครงการ แต่เป็นสายแรกที่ก่อสร้าง โดยมีกำหนดเปิดบริการ ในเดือน มิ.ย. 2559
หน่วยงาน PMU ที่รับผิดชอบโครงการ ได้เสนอต่อรัฐวิสาหกิจระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเมืองหลวง ให้ประชาชนที่จะเป็นผู้ใช้บริการได้แสดงความคิดเห็นต่อรถไฟ โดยรถตัวอย่างจำนวนหนึ่งส่งจากจีนถึงกรุงฮานอย ตั้งแต่เดือน ต.ค. และ เปิดให้สาธารณชนทั่วไปได้ชม สำรวจความคิดเห็น จนกระทั่งได้ผลสรุปออกมาในสัปดาห์นี้
ตามรายงานของสื่อออนไลน์ หน่วยงานที่ดำเนินการเรื่องนี้ตั้งคำถามหลายคำถาม เพื่อขอความเห็นจากผู้ไปชมกว่า 3,000 คน ในนั้นมีผู้เขียนแสดงความคิดเห็น 1,904 คน เสียงส่วนใหญ่เป็นเอกฉันท์กันในเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งคือ ให้หน่วยงานที่กำกับดูแล ลบชื่อที่เป็นอักษรภาษาจีน ที่ทำไปจากโรงงานผลิตตู้โดยสารออกให้หมด ให้เหลือเฉพาะชื่อภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ
รถไฟฟ้าสายนี้กำหนดความเร็วเฉลี่ยเอาไว้เพียง 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ผู้แสดงความคิดเห็นไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่เป็นกังวลเรื่องความไม่สะดวกสบายเกี่ยวกับพื้นที่โดยสาร ที่คาดว่าจะอัดกันแน่นในชั่วโมงเร่งด่วน เนื่องจากผู้คนหนีปัญหารถติด อันเป็นปัญาใหญ่ของชาวฮานอยทุกวันนี้
ทางการได้เชิญสาธารณชนทั่วไป ไปชมขบวนรถตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. ถึง 30 พ.ย.ที่ผ่านมา และ แจกแบบสอบถามขอความคิดเห็นในหลายเรื่อง เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขก่อนเปิดให้บริการอีก 4 เดือนข้างหน้า
.
|
.
"ความเห็นทั้งหมดสร้างสรรค์ ในแง่บวก น่าสนใจ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เหตุผลสนับสนุนความคิดเห็นของตน และ ไม่ค่อยมีข้อเสนอแนะ" PMU การรถไฟ ระบุในเอกสารแถลงข่าวที่เผยแพร่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ในบรรดาผู้กรอกแบบสอบถามชนิดกากบาทผิด-ถูก มี 1,281คน หรือ 67.2% "พอใจ" จนถึง "พอใจมาก" โดยรวม ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ที่ไม่พอใจเป็นเสียงส่วนน้อย
ในกลุ่มที่ "ไม่พอใจ" 32.7% นั้น มี 32.7% ไม่พอใจเกี่ยวกับสีของรถมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้แนะนำว่า ควรจะเปลี่ยนเป็นสีอะไร ระหว่างเหลือง แดง ส้ม ขาว และ สีฟ้า แต่ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าควรจะเปลี่ยนเป็นสีอื่น เนื่องจากไปใช้สีเดียวกับรถเมล์โดยสารแอร์พอร์ตลิงค์ กับรถเมล์อีกสายหนึ่งในปัจจุบัน
มี 63 ความเห็นระบุว่า ราวจับเหนือศีรษะสำหรับยืนโดยสาร ติดตั้งชิดกับม้านั่งยาวข้างล่างมากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่นั่งโดยสารอึดอัด ขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบถไม่สะดวก มี 101 ความเห็นเสนอให้ติดตั้งห่วงยึดบนราวเพิ่มขึ้น แต่อีกจำนวนหนึ่งเห็นว่า ขณะนี้ก็มีมากพอแล้ว หากมีมากกว่านี้จะทำให้ตู้โดยสารแน่นเกินไป
ยังมีผู้ให้ความเห็นเกี่ยวกับที่นั่งโดยสาร 178 ความเห็น ในนั้น 64 ความเห็นเสนอให้เปลี่ยนวัสุดจากแข็ง ให้เป็นเบาะนุ่มแบบเบาะหนัง เบาะผ้าหรือ เบาะนุ่มๆ ทั่วไป อีกจำนวนหนึ่งเสนอให้ใช้เบาะที่มีสปริง โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้นั่งสบายไม่เมื่อยขบ
มี 112 ความเห็นเสนอให้เปลี่ยนระบบไฟส่องสว่างภายในตู้โดยสารเสียใหม่ รวมทั้งไฟ LED ส่องป้ายข้อความต่างๆ ต้องสว่างมากกว่านี้ และ เสนอให้ปรับปรุงเสียงอัดเทปแนะนำผู้โดยสาร ให้ใช้บุคคลากรที่พูดภาษาอังกฤษชัดเจนในระดับสากล แทนเสียงที่นำเสนอในปัจจุบัน ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงเวียดนาม
รถไฟฟฟ้าสายแรกของชาวเมืองหลวง มีระยะทาง 13 กิโลเมตรเศษเท่านั้น ส่วนใหญ่คือกว่า 9 กิโลเมตร เป็นระบบลอยฟ้าแบบเดียวกับรถไฟฟ้าบีทีเอสในกรุงเทพฯ มีทั้งหมด 12 สถานี มีรถบริการ 13 ขบวน รวมมูลค่า 63.2 ล้านดอลลาร์ รถจะออกแล่นให้บริการทุกๆ 3 นาที ทั้งรถ ทั้งรางผลิตในจีน เป็นรางกว้าง 1.435 เมตร
ทำไมต้องเป็นระบบรถไฟฟ้าจีน? ก็เพราะว่ารถไฟฟ้าสายก๊าตลีง-ห่าโดง ใช้เงินกู้จากจีนถึง 419 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการที่มีมูลค่ารวม 552 ล้านดอลลาร์ ที่เหลือเป็นเงินบประมาณของรัฐ เงินกู้จีนยังแบ่งเป็นเครดิตไลน์กว่า 100 ล้านดอลลาร์ ก้อนใหญ่กว่าที่เหลือเป็นเงินกู้ผ่อนปรน ซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบทุกชิ้นจากประเทศจีน และบริษัท China Railway Group จากจีนเป็นผู้ก่อสร้าง
เริ่มการก่อสร้างปลายปี 2544 แต่ประสบปัญหาหนักเกี่ยวกับการเวนคืนที่ดิน ระหว่างการก่อสร้างยังเกิดอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บอยู่เนืองๆ กลายเป็นคดีความซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปล่าช้า การก่อสร้างยังเบียดบังพื้นผิวจราจรไปจำนวนมาก ทำให้ปัญหารถติดที่สาหัสอยู่แล้วเข้าสู่ขั้นวิกฤต
นอกจากนั้นงบประมาณก่อสร้าง ยังบานปลายออกไปเป็นกว่า 892 ล้านดอลลาร์ ทำให้ต้องกู้เพิ่มจากจีนอีก 250 ล้านดอลลาร์เมื่อต้นปีนี้
การก่อสร้างแล้วเสร็จไปราว 90% ในขณะนี้ การตอกเข็มทั้งหมดจำนวน 806 เสา สำหรับช่วงที่เป็นรถไฟยกระดับกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้่ และ การก่อสร้างสถานีผู้โดยสารจำนวน 10 สถานี จะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.เช่นกัน ทั้งระบบต้องแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.ปีหน้าก่อนเริ่มทดลองวิ่ง.