“บางจาก” ตั้งเป้าปีหน้ามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยค่าเสี่อมและภาษี (EBITDA) 1.26 หมื่นล้านบาท หลังจากปีนี้ทุบสถิติสูงสุด พร้อมทุ่มงบลงทุนปี 59 กว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะซื้อธุรกิจ E&P เพิ่มเติม และขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ยอมรับขายทิ้งธุรกิจเหมืองโปแตช อ้างไม่ใช่ธุรกิจพลังงาน
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม (Operating EBITDA) ไว้ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%จากเป้าหมายปีนี้ที่กำหนดไว้ 1.04 หมื่นล้านบาท โดยยอมรับว่าปีนี้บริษัทจะมี Operating EBITDA สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้เกิน 50% สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่ก่อตั้งบริษัทมา
ส่งผลให้กำไรสุทธิบางจากฯ ในปีนี้คาดว่าจะสูงกว่า 4 ปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสูงสุดในปี 2554 อยู่ที่ 5.61 พันล้านบาท แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนสต็อกน้ำมันก็ตาม หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 31.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยปีนี้โรงกลั่นบางจากฯกลั่นน้ำมันเฉลี่ย 1.13 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่ค่าการกลั่น (GRM) อยู่ระดับ 8-9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูง
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า ในปี 2559 บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นน้ำมัน 2-3 พันล้านบาท ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน 3 พันล้านบาท ที่เหลือเป็นธุรกิจใหม่ โดยบริษัทมีกระแสเงินสด 1.4 หมื่นล้านบาท
โดยปีหน้าบริษัทฯ มีแผนจะขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่มขึ้นอีก 60 ปั๊ม จากปัจจุบันมีปั๊มน้ำมันทั้งหมด 1,060 แห่ง และขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งมีแผนปรับปรุงปั๊มน้ำมันสหกรณ์ให้เป็นปั๊มน้ำมันมาตรฐานและมีธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) เข้าไปเสริมในปั๊มจำนวน 1 ใน 3 ของปั๊มสหกรณ์ทั้งหมด
นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/2559 บริษัทฯ จะเข้าไปซื้อธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมใหม่ (E&P) แถบเอเชียแปซิฟิก โดยเป็นแหล่งปิโตรเลียมที่มีขนาดไม่ใหญ่ มีปริมาณสำรองปิโตรเลียมอยู่ที่ระดับ 10 ล้านบาร์เรล ซึ่งบางจากฯ จะถือหุ้นในแหล่งดังกล่าว 30-40% โดยบริษัทได้กำหนดงบลงทุนในธุรกิจ E&P ช่วง 5 ปีนี้อยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท
บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายการลงทุนธุรกิจโซลาร์ฟาร์มเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศเพิ่มอีก 200 เมกะวัตต์จากปัจจุบันมีอยู่ 118 เมกะวัตต์ โดยจะซื้อโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่ผลิตแล้วและลงทุนใหม่ในต่างประเทศ และในไทยจะเป็นการลงทุนโครงการโซลาร์สหกรณ์ที่คาดว่าจะประกาศได้ในต้นปีหน้า รวมทั้งยังมองหาโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนธุรกิจ Wave Power Technology ซึ่งเป็นการนำพลังงานของคลื่นมาผลิตกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ห่างไกล โดยสนใจเข้าไปลงทุนในด้านเทคโนโลยีดังกล่าว เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่บริษัทเข้าไปลงทุนในธุรกิจเหมืองลิเทียม
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า โรงกลั่นบางจากในปีหน้าจะมีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ 40 กว่าวัน คาดทั้งปีบริษัทฯ ยังกลั่นน้ำมันได้เกิน 1 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่ค่าการกลั่นในปีหน้ายังดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะสเปรดน้ำมันเบนซินยังสูง เนื่องจากการบริโภคเบนซินในจีนและอินเดียที่เพิ่มขึ้นทำให้น้ำมันเบนซินเริ่มขาดตลาดและราคาขยับสูงขึ้น ส่วนดีเซลยังล้นตลาดอยู่ จึงอยากให้รัฐบาลหันมากระตุ้นให้เกิดการใช้ E20 และ E85 ภายในประเทศมากขึ้น เพื่อลดการนำเข้าเบนซินที่มีราคาสูงและยังช่วยเหลือเกษตรกรด้วย
ส่วนธุรกิจเหมืองโปแตชทางบางจากฯ ตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด10.66% ใน บมจ.อาเซียนโปแตช ชัยภูมิ เนื่องจากไม่ใช่ธุรกิจหลักด้านพลังงาน โดยบริษัทมีกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าวออกไป