นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2559 ว่า จะมุ่งเน้นการลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจการกลั่น และขยายการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างเหมาะสม พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สอดคล้องความต้องการผู้ใช้รถ เพื่อเป็นผู้นำพลังงานทดแทนอาเซียน โดยตั้งเป้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อม (อีบิทดา) 12,600 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบปีหน้าคาดว่าจะอยู่ในกรอบค่อนข้างกว้างระหว่าง 30-58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้วยปัจจัยการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน ค่าเงินสหรัฐแข็งขึ้น และปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาด โดยคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 เนื่องจากราคาน้ำมันถูกลง เตรียมวางแผนลงทุนระยะยาวปี 2559-2563 เพิ่มกำลังการกลั่น 120,000 บาร์เรล เป็น 140,000 บาร์เรลต่อวัน คาดว่าจะมีค่าการกลั่นเฉลี่ย 6-7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล พร้อมทั้งจะรักษาส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 อย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนสถานีบริการและปริมาณการจำหน่าย พร้อมทั้งมีแผนขยายสถานีบริการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น
สำหรับแผนการลงทุนใหม่ มีแผนลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนและธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม วงเงิน 23,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนผ่านบริษัท บีซีพีจี จำนวน 200 เมกะวัตต์ ธุรกิจไบโอดีเซล ที่มีจำนวนการผลิต 810,000 ลิตรต่อวัน จากการเดินเครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลบี 100 แห่งที่ 2 ช่วงกลางปี 2559 พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจเอทานอลอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าลงทุน 2 โครงการ กำลังผลิตรวมกว่า 350,000 ลิตรต่อวัน
สำหรับแผนการลงทุนใหม่ มีแผนลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนและธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม วงเงิน 23,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนผ่านบริษัท บีซีพีจี จำนวน 200 เมกะวัตต์ ธุรกิจไบโอดีเซล ที่มีจำนวนการผลิต 810,000 ลิตรต่อวัน จากการเดินเครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลบี 100 แห่งที่ 2 ช่วงกลางปี 2559 พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจเอทานอลอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าลงทุน 2 โครงการ กำลังผลิตรวมกว่า 350,000 ลิตรต่อวัน