“บางจาก” เผยไตรมาส 3 เดินหน้ากลั่นน้ำมันในอัตราสูงเฉลี่ย 110,000 บาร์เรล/วัน แม้ว่าราคาน้ำมันอ่อนตัวลง แต่มาร์จินผลิตภัณฑ์ยังดีอยู่ มั่นใจทั้งปี EBITDA ทะลุเป้าหมาย 1.04 หมื่นล้านบาทแน่ แม้ว่าค่าการกลั่นเฉลี่ยครึ่งปีหลังลดลง เนื่องจาก 6 เดือนแรกนี้ บางจากมี EBITDA คิดเป็น 72% ของเป้าหมาย
นางเสาวภาพ สุเมฆศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินองค์กร บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่าในไตรมาส 3 นี้บางจากยังเดินโรงกลั่นน้ำมันในอัตราที่สูงเฉลี่ยวันละ 110,000 บาร์เรล สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 105,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากต้นทุนน้ำมันดิบลดลงจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง และมาร์จินผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปยังดีอยู่ ทำให้คุ้มที่จะกลั่นน้ำมันในอัตราที่สูงได้
โดยยอมรับว่าค่าการกลั่นรวม (GRM) ในครึ่งปีหลังนี้จะต่ำลงเมื่อเทียบจากครึ่งแรกของปี 2558 ที่มี GRM เฉลี่ย 10.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากมีการประเมินว่าราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวและผันผวน 47-62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และไตรมาส 3 นี้ถือเป็นช่วงโลว์ซีซันการใช้น้ำมันก่อนที่จะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 โดยคาดว่าทั้งปีราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 57 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าทั้งปี 2558 บางจากฯ มีกำไรก่อนหักภาษี อัตราดอกเบี้ยและค่าเสื่อม (EBITDA)ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกนี้ บางจากมี EBITDA 7.49 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 72% ของเป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีแผนที่จะปรับเป้าหมาย EBITDA เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
“ปีนี้ EBITDA บางจาก 1.04 หมื่นล้านบาท มาจากธุรกิจการกลั่น 40% ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน 16% พลังงานหมุนเวียน 30% สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 7% แต่ในปี 2563 สัดส่วนโครงสร้างกำไรของบางจากจะมาจากธุรกิจการกลั่นและธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน 50% และที่เหลือมาจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียน สำรวจและผลิตปิโตรเลียม อีก 50%”
นางเสาวภาพกล่าวถึงความคืบหน้าการซื้อกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในต่างประเทศว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง เป็นโอกาสที่ดีในการแสวงหาโอกาสเพื่อซื้อกิจการธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) เพิ่มเติมในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ โดยมีเป้าหมายในปี 2-3 ปีข้างหน้า บางจากฯ จะมีปริมาณการผลิตปิโตรเลียมคิดเป็น 2 หมื่นบาร์เรล/วันจากปัจจุบันอยู่ที่ 3-4 พันบาร์เรล/วัน ซึ่งมาจากการเข้าถือหุ้นในบริษัท NIDO
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนขึ้นเป็น 250 เมกะวัตต์ในปีนี้ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 118 เมกะวัตต์ โดยมีแผนจะลงทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น กำลังผลิต 30เมกะวัตต์ ขณะนี้ธนาคารญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการพิจารณาปล่อยสินเชื่อโครงการดังกล่าว รวมทั้งหาโอกาสที่จะลงทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีกด้วย หากโครงการดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุป ก็อาจจะต้องเลื่อนเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในปีนี้ออกไป
อย่างไรก็ตาม บางจากมีเป้าหมายที่จะแยกธุรกิจไฟฟ้าเพื่อนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ต้องเร่งแสวงหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันบางจากมีกระแสเงินสดในมือกว่า 1 หมื่นล้านบาท อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.5 เท่า ทำให้สามารถกู้เงินได้อีกหากมีการลงทุนใหม่เพิ่มเติม