“บิ๊กตู่” เปิดทดสอบระบบรถไฟสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-เตาปูน พร้อมทดลองนั่ง 1 สถานี กำชับนโยบายค่าโดยสารต้องถูกเพื่อให้คนจนขึ้นได้ลดความเหลื่อมล้ำ สั่งบูรณาการวางแผนออกแบบเป็นระบบ ใช้ของในประเทศ เล็งต่อไปต้องประกอบรถไฟฟ้าได้ในประเทศ ไม่ซื้อมาทั้งคัน พร้อมเปิดเอกชนร่วมทุน (PPP) มากขึ้น ชี้เมื่อลงทุนต่ำค่าโดยสารจะถูกตามไป ส่วนสีน้ำเงินส่วนต่อขยายล่าช้า ติดปัญหาคัดเลือกเดินรถ เลื่อนเปิดเป็นปี 62
วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลา 09.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการทดสอบเดินรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ณ อาคารศูนย์ซ่อมบำรุง คลองบางไผ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และพิธีฉลองความสำเร็จการเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) สัญญา 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระ สถานีสนามไชย โดยมีบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง โดยมีศาตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) Mr. Shrio Sadoshima เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พลเอก พลไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พลเอก วิลาส อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอก ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ช.การช่าง เข้าร่วม
ทั้งนี้ นายกฯ ได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าจากศูนย์ซ่อมบำรุงคลองบางไผ่ไปยังสถานีบางไผ่ ระยะทางไป-กลับประมาณ 5 กม. ซึ่งถือเป็นการเริ่มทดสอบการวิ่งบนเส้นทางที่จะให้บริการอย่างเป็นทางการเพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานทุกระบบสอดคล้องกันอย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ภายหลังจากที่ได้ดำเนินการวิ่งภายในศูนย์ซ่อมบำรุงแล้ว
โดยบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL เป็นผู้รับสัมปทานให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ซึ่ง BMCL เป็นผู้ลงทุนจัดหาระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง เป็นเวลา 30 ปี โดยกำหนดเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการเสมือนจริงประมาณเดือน พ.ค. 2559 และเปิดให้เดินรถเป็นทางการในเดือน ส.ค. 2559 และสัญญาสัมปทานสิ้นสุดปี 2586
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รถไฟฟ้าเป็นโครงการที่สำคัญและมีประโยชน์ เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาการจราจรอย่างมาก จึงต้องการให้เร่งรัดการเปิดเดินรถสายสีม่วง แต่ต้องคำนึงถึงความสะดวกและปลอดภัยด้วย ซึ่งยังต้องทดสอบอีกหลายเดือน โดยเดือน พ.ค. 2559 จะเปิดให้ประชาชนร่วมทดลองโดยไม่เก็บค่าโดยสารจนถึงเดือน ส.ค. 2559 ซึ่งกำหนดเปิดบริการอย่างเป็นทางการ ซึ่งนโยบายสำคัญคือ การให้ประชาชนทุกคนสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าได้ แต่อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ 14-42 บาทนั้นถือว่าสูงสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งปัญหาเพราะที่ผ่านมาคิดเป็นช่วงๆ คิดเป็นเส้นๆ ทำทีละตอน ทำให้ใช้เงินลงทุนสูง ต่อไปนี้แนวคิดในการทำโครงการต้องเกิดประโยชน์สูงสุด การก่อสร้างต้องวางแผนทั้งระบบ ดูโครงข่ายตั้งแต่วงนอกกรุงเทพฯ จนถึงกรุงเทพฯ ชั้นใน จะทำอย่างไร จะเชื่อมกันอย่างไร ต้องคิดรวมกัน และต้องไปคิดเพิ่มว่าจะมีรถไฟฟ้ารูปแบบอื่นที่ลงทุนถูกกว่านี้เพื่อให้คนมีรายได้น้อยสามารถใช้ได้ ต้องบูรณาการกัน เพื่อให้คนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน ลดปัญหาจราจร ลดมลภาวะ และต่อไปในอนาคตศูนย์ควบคุมการเดินรถต้องใช้ร่วมกันได้ ไม่ว่าใครจะมารับงานเดินรถจะต้องเข้ามาร่วมทุนและใช้ศูนย์ควบคุมเดียวกันได้ ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ รถไฟจะต้องต่อกันได้หมด ซึ่งได้มอบหมายให้พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ไปทำแผนขับเคลื่อน
ส่วนเรื่องตัวรถไฟฟ้าโครงการต่อๆ ไปอยากให้สามารถเชื่อมโยงกับโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศ เน้นใช้วัสดุภายในประเทศให้มากที่สุด ไม่ใช่สั่งซื้อมาทั้งคันแบบนี้ เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจของประเทศ วันนี้ต้องเริ่ม อาจจะเป็นการนำชิ้นส่วนมาประกอบในประเทศก่อน ซื้อบางส่วน ใช้ในประเทศบางส่วน อนาคตสามารถผลิตได้หรือตั้งโรงงานผลิตได้ ถ้าเมื่อ 10 ปีก่อนคิดแบบนี้วันนี้เราผลิตรถไฟฟ้าได้แล้ว ส่วนการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ รฟม.เวนคืนมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเดิมกำหนดกิจการใดก็ต้องใช้เฉพาะกิจการนั้น ในทางธุรกิจลำบาก ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนส่วนรวม ดังนั้น ทีโออาร์จะต้องเขียนให้ชัดเจนราคาเท่าไร จะพัฒนาต่อยอดได้อย่างไร อย่าคิดเฉพาะส่วน และต้องเปิดเอกชนร่วมลงทุน (PPP) เพิ่ม ทั้งตัวรถ และที่จอดรถเพื่อให้ประชาชนมาใช้รถไฟฟ้า ไม่ใช่เขียนโครงการเสนอขออนุมัติก่อสร้างแล้วมีแต่สร้างหนี้ รัฐบาลไม่มีเงินเหลือ เพราะยังมีภาระอื่นที่ต้องไปดูแลอีกหลายอย่าง
“ถ้าหากสามารถใช้วัสดุในประเทศได้มากราคาจะถูก เป้าหมายต้องการให้ประหยัด ปลอดภัย สร้างความเข้มแข็งในประเทศ ส่วนการใช้ที่ดิน ต้องออกแบบเพื่อให้มีชั้น 2 ชั้น 3 ทำเป็นเชิงธุรกิจ ศูนย์การค้าต่างๆ เพื่อหารายได้มาชดเชยการลงทุน แบบนี้จะทำให้ค่าโดยสารถูกลงได้ รัฐบาลไม่มีเงินจำนวนมากไปลงทุน ต้องขอความร่วมมือจากเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน เอากำไรลดลงหน่อย ขอกำไรให้ประชาชน ประเทศชาติ ผมจะพยายามทำให้เกิดความชัดเจนภายในรัฐบาลนี้ นโยบายผมต้องการลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน คนมีรายได้น้อยต้องมีโอกาสได้ใช้บริการรถไฟฟ้า” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งขณะนี้มีความล่าช้า ว่าจะเปิดให้บริการได้เมื่อใด พลเอก ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ล่าช้าเพราะมีความขัดแย้งเรื่องว่าจะเปิดประมูลหรือเจรจา ซึ่งตอนนี้ต้องเร่งรัดให้เกิดให้ได้ โดย รฟม.แจ้งว่าจะเปิดให้บริการในปี 2562
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีม่วง ระยะทาง 23 กม. มีสถานียกระดับ 16 สถานี อาคารจอดแล้วจร 4 แห่ง ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง โดยปัจจุบันการก่อสร้างงานโยธาเสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารประมาณ 60,000 คน/ชม./ทิศทาง
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ BMCL กล่าวว่า บริษัทได้สั่งผลิตขบวนรถไฟฟ้าจาก บริษัท Japan Transport Engineering Company หรือ J-TREC ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 21 ขบวน รวม 63 ตู้ โดย 3 ขบวนแรก (9 ตู้) ได้ส่งมอบถึงประเทศไทยเมื่อเดือน ก.ย. 2558 และ 3 ขบวนถัดมา (9 ตู้) ส่งมอบถึงประเทศไทยเมื่อเดือน พ.ย. 2558 และที่เหลือจะทยอยส่งมอบอีก 3 ครั้ง ครั้งละ 5 ขบวน (15 ตู้) โดยจะส่งมอบครบในเดือน ก.พ. 2559 โดยเมื่อขบวนรถไฟฟ้ามาถึงจะเริ่มทดสอบระบบย่อยต่างๆ ในแต่ละส่วนของระบบรถไฟฟ้าอันเป็นส่วนต่อเนื่องจากโรงงานและทดสอบในรางวิ่งทดสอบ (Test Track) ภายในศูนย์ซ่อมบำรุง ได้แก่ ระบบควบคุมการขับเคลื่อนรถไฟฟ้า ระบบเบรก เป็นต้น โดยถึงเดือน พ.ย. 2558 งานเดินรถมีความคืบหน้า 85.34%