เอียซาไม่แบน! การบินไทยรอด บินเข้ายุโรปได้ตามปกติ

รายงานข่าวจากคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า สายการบินของประเทศไทยยังไม่ได้ถูกจัดอยู่ในแบล็กลิสต์ด้านความปลอดภัยทางอากาศ โดยผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2558 และองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป หรือ EASA ระบุว่ามีความยินดีที่จะทำงานร่วมกับทางการไทยเพื่อปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยต่อไป

คณะกรรมาธิการยุโรปและ EASA จะติดตามการปรับปรุงแก้ไขในอนาคตอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบว่ามีความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร ทางคณะกรรมาธิการยุโรปก็ยังสามารถเสนอให้เพิ่มสายการบินจากประเทศไทยไปในลิสต์ได้

ทั้งนี้ ผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยได้เผยแพร่เอกสารแถลงข่าว มีใจความว่า คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ด้วยการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการความปลอดภัยทางอากาศ ได้ตัดสินใจไม่ลงรายชื่อสายการบินของประเทศไทยในรายชื่อความปลอดภัยทางอากาศของอียู (EU Air Safety List)

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างต่อเนื่องของทางการไทยในการจัดการปัญหาในระดับสูงสุดต่อข้อกังวลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และดำเนินการสู่การสร้างระบบที่จะรับรองความปลอดภัยสูงสุดของการขนส่งทางอากาศของประเทศในระยะยาว รวมทั้งความมุ่งมั่นที่โดดเด่นของประเทศไทยในการให้การสนับสนุนที่จำเป็นแก่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เพื่อการดำเนินงานที่เป็นอิสระและปราศจากการแทรกแซง โดยสหภาพยุโรปจะไม่ประนีประนอมกับความปลอดภัยของผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด

หน่วยงานที่กำกับดูแลการขนส่งทางอากาศของสหภาพยุโรปจะยังคงติดตามสถานการณ์และมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาล และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในทุกด้านที่เป็นไปได้ในการสร้างระบบที่ยั่งยืน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยทางการบินที่สูงสุด เพื่อที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กับผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือด้านการบินในกลุ่มสหภาพยุโรป (EASA) ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการลงนามในครั้งนี้จะทำให้หน่วยงานทั้งสองเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดในการร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยทางอากาศต่อไป

เอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรป เฆซูส มิเกล ซันส์ กล่าวว่า “ผมมีความโล่งใจที่การปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งผลให้คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปสามารถทำการตัดสินใจในเชิงบวกต่อการขนส่งทางอากาศของไทยในวันนี้ คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป พร้อมด้วย EASA จะยังคงติดตามพัฒนาการความปลอดภัยของอากาศยานของประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือในทุกๆ ด้านที่สามารถทำได้เพื่อจุดประสงค์นั้น”