xs
xsm
sm
md
lg

รถไฟไทย-จีนเซ็น FOC วางกรอบทำงานร่วม ต้นทุนทะลุ 5 แสนล้าน “อาคม” สั่งรีเช็กทุกรายการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ได้ร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 9   เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2558 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพฯ
“อาคม” เผยยังไม่สรุปค่าก่อสร้างรถไฟไทย-จีน สั่งที่ปรึกษา ร.ฟ.ท. ถอดแบบคำนวณต้นทุนรถไฟไทย-จีนแบบละเอียด เชื่อราคาน้ำมันลดช่วยลดต้นทุนโครงการลงจากที่จีนเสนอกว่า 5 แสนล้านแน่ พร้อมย้ำจุดยืนไทยดอกเบี้ยเหมาะสมต่ำกว่า 2% ตั้งเป้าก่อสร้าง ช่วง 1, 3 กลางปี 59 เดินหน้าลงนาม FOC วางกรอบทำงานร่วม พร้อมซื้อข้าว-ยางจากไทย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 9 นั้นได้หารือถึงการทำรายงานการศึกษาความเหมาะสมซึ่งขณะนี้ข้อมูลยังไม่ครบ โดยได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ตรวจสอบข้อมูลที่ฝ่ายจีนจัดส่งมารวมถึงตัวเลขต้นทุนโครงการอย่างละเอียด ซึ่งขณะนี้ต้องบอกว่าตัวเลขลงทุนโครงการยังไม่นิ่ง จึงยังไม่มีการสรุปใดๆ เพราะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขถึง 5 แสนล้านบาท หลักๆ มาจากการเพิ่มสถานี เช่น สถานีชุมทางบ้านภาชี ซึ่งเดิมอยู่ในโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ แต่ได้ปรับมาอยู่ในโครงการรถไฟไทย-จีน นอกจากนี้ยังเป็นวิธีการคิดต้นทุนโครงการของจีน การคำนวณค่าก่อสร้าง ซึ่งไทยจะต้องนำแบบที่จีนศึกษาไว้มาถอดเป็นรายตัว ตามวิธีคิดและระบบราคากลางของไทย ซึ่งหากประเมินตามสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ราคาน้ำมันที่ลดลงเหลือ 50 ดอลลาร์สหรัฐ จึงเชื่อว่าต้นทุนโครงการน่าจะลดลง

ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้น จุดยืนทางจีน 2.5% แต่ทางกระทรวงการคลังมีข้อมูลอัตราดอกเบี้ยจากแหล่งเงินต่างๆ อยู่ เห็นว่าควรไม่สูงกว่า 2% ซึ่งประเด็นนี้จะต้องหารือร่วมกันอีก ครั้งนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน คงต้องเปรียบเทียบให้ดีที่สุด ซึ่งประเมินฝ่ายเราเห็นว่าอัตราที่รวมสวอปค่าเงิน, ค่าคอมมิชชันแล้วน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2% หรือต่ำกว่าส่วนจีนก็มีวิธีการคิดของจีนว่า อัตราที่ให้เป็นอัตราที่ถูกที่สุดแล้วสำหรับเงินกู้จีน

พร้อมกันนี้ ได้กำหนดแผนการทำงานในช่วง 6 เดือนข้างหน้าร่วมกัน เพื่อสรุปรายงานผลการศึกษาทั้งหมดฉบับสมบูรณ์เสนอ ครม. โดยขณะนี้จีนได้สำรวจออกแบบช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กิโลเมตร และช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 138.5 กิโลเมตร คืบหน้าประมาณ 80% และจะส่งครบ 100% ในเดือน ธ.ค. 58 คาดว่าจะก่อสร้างช่วง 1, 3 ได้ประมาณกลางปี 2559

ส่วนช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 246.5 กิโลเมตร และช่วงที่ 4 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร ขณะนี้การออกแบบคืบหน้าประมาณ 50%

โดยคาดว่าจะมีการประชุมร่วมด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 10 ในเดือน ก.พ. 2559 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

รายงานข่าวแจ้งว่า ค่าก่อสร้างที่จีนเสนอล่าสุดอยู่ที่ 5.6 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าประมาณการเดิมที่เป็นการออกแบบสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง เนื่องจากรถไฟไทย-จีนใช้ความเร็วปานกลาง มีการเพิ่มสถานีอีก 4-5 แห่ง นอกจากนี้ยังมีการเจาะอุโมงค์ และบางช่วงออกแบบเป็นทางยกระดับ หรือสะพานบก ทำให้ค่าก่อสร้างเพิ่มทำให้ไทยต้องถอดแบบอย่างละเอียดเพื่อหาที่มาของต้นทุนภายใต้ความเป็นจริงของการก่อสร้างในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันที่ 3 ธ.ค. คณะทำงานร่วมไทย-จีนได้เดินทางไปที่สถานีเชียงรากน้อย จ.ปทุมธานี จุดโครงการศูนย์สั่งการการเดินรถ (OCC) ซึ่งจะมีพิธีเปิดตัวโครงการในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ โดยจีนได้ขอข้อมูลของพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อไปออกแบบ OCC และในช่วงเย็นจะมีการลงนามร่วมไทย-จีนเพื่อรับรองการประชุมโครงการความร่วมมือระหว่างไทย-จีน เพื่อก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร (Standard Gauge) เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทาง 873 กิโลเมตร ครั้งที่ 9 และลงนามในกรอบความร่วมมือในการดำเนินการระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ (Framework of Cooperation : FOC) และลงนามระหว่างรัฐบาลไทยกับจีน กรณีการจัดซื้อสินค้าการเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา ภายใต้กรอบการขายแบบรัฐต่อรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น