xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ไฟเขียวเซ็นร่วมมือสร้างรถไฟไทย-จีน 19 ธ.ค.เปิดตัวศูนย์ OCC เชียงรากน้อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ครม.เห็นชอบกรอบการลงนามความร่วมมือรถไฟไทย-จีน “อาคม” เผยเตรียมพิธีเปิดตัวศูนย์สั่งการการเดินรถ (OCC) ที่เชียงรากน้อย 19 ธ.ค.นี้ คงเป้าเริ่มก่อสร้าง พ.ค. 59 คาดลงนามพร้อมสัญญาซื้อขายข้าวและยางพารา

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ได้มีมติเห็นชอบการลงนามกรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ หรือกรอบการทำงานร่วมกัน (Framework of Operation) โครงการความร่วมมือระหว่างไทย-จีน เพื่อก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร (Standard Gauge) เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทาง 873 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 4 แสนล้านบาท โดยตั้งเป้าเริ่มการก่อสร้างในเดือน พ.ค. 2559

โดยในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ทั้งสองฝ่ายจะร่วมทำพิธีเปิดตัวโครงการ ศูนย์สั่งการการเดินรถ (OCC) ที่สถานีเชียงรากน้อย จ.ปทุมธานี เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เห็นภาพรวมของโครงการทั้งหมด เช่น แนวเส้นทาง จำนวนสถานี พร้อมกันนี้จะเร่งสรุปรายละเอียดการดำเนินโครงการทั้งหมดภายใน พ.ค. 2559 เช่น รูปแบบการลงทุน อัตราดอกเบี้ย แนวเส้นทาง และการก่อสร้าง ซึ่งฝ่ายจีนจะส่ง 2 หน่วยงานมารับผิดชอบการก่อสร้าง ประกอบด้วย 1. บริษัท ไชน่าเรลเวย์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CRCC) รับผิดชอบการก่อสร้างช่วงที่ 1-2 และ 2. บริษัท ไชน่าเรลเวย์ เอ็นจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CREC) รับผิดชอบช่วงที่ 3-4

สำหรับสาระสำคัญใน Framework of Operation แบ่งเป็น 5 ข้อหลัก คือ 1. ก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน แบ่งเป็น 4 ช่วง โดยช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กิโลเมตร ช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 246.5 กิโลเมตร ช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 138.5 กิโลเมตร และช่วงที่ 4 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างช่วงที่ 1 และ 3 ก่อน

2. จัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle : SPV) ระหว่างไทย-จีน เพื่อร่วมลงทุนงานระบบ จัดหารถไฟฟ้า และเดินรถ ซึ่งฝ่ายไทยเบื้องต้นให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นหน่วยงานที่ร่วมทุนอยู่ใน SPV โดยช่วง 3 ปีแรกของการเปิดให้บริการฝ่ายจีนจะเป็นผู้รับผิดชอบงานเดินรถและซ่อมบำรุง ปีที่ 4-7 ฝ่ายไทยจะเข้าร่วมรับผิดชอบด้วย และตั้งแต่ปีที่ 7 เป็นต้นไปต้องถ่ายโอนงานดังกล่าวมายังฝ่ายไทย

3. การทำงานจะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยฝ่ายจีนเป็นผู้รับผิดชอบการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ การศึกษาทางเศรษฐกิจ สำรวจและออกแบบ และงานก่อสร้างที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูง ขณะที่ฝ่ายไทยรับผิดชอบงานก่อสร้างพื้นราบ การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และการเวนคืนที่ดิน

4. ยอมรับในหลักการว่าธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน (CEXIM) จะพิจารณาอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ไทยในเงื่อนไขที่ดีที่สุดหากเปรียบเทียบกับแหล่งเงินอื่น และ 5. พัฒนาบุคลากรร่วมกันเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี ส่วนกำหนดการลงนามร่วมกันใน Framework of Operation นั้น ต้องรอลงนามพร้อมการลงนามความตกลงด้านการซื้อขายข้าวและยางพาราด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น