xs
xsm
sm
md
lg

“ออมสิน” เร่งรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง มั่นใจเปิดประมูลได้หมดในปีนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
“ออมสิน” จี้ ร.ฟ.ท.เร่งประมูลทางคู่ 6 เส้นทาง มั่นใจเปิดประมูลได้หมดในปีนี้ ส่วนสายสีแดงสัญญา 3 ล่าสุดต่อรองเหลือ 3.23 หมื่นล้าน เกินกรอบที่ 2.79 หมื่นล้าน สั่ง ร.ฟ.ท.สรุปผลประมูล เตรียมเสนอ ครม.ขอเพิ่มกรอบวงเงิน หวั่นงานระบบและรถไฟฟ้าล่าช้า ก่อสร้างโยธาเสร็จแล้วไม่มีรถไฟฟ้าวิ่ง

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในกำกับดูแลว่า ได้รับมอบหมายจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้กำกับดูแล 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมเจ้าท่า กรมการขนส่งทางบก บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งได้มอบหมายนโยบายเน้นย้ำเรื่องความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมกับเร่งรัดงานในหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการของ ร.ฟ.ท. ซึ่งรัฐบาลต้องการเร่งรัดการประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางให้ได้ภายในปีนี้

โดยขณะนี้โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. วงเงิน 11,348.36 ล้านบาท ได้ขายเอกสารประกวดราคาแล้ว ส่วนชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 26,007.20 ล้านบาท จะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. วันที่ 8 กันยายนนี้เพื่ออนุมัติก่อนจึงจะขายเอกสารประกวดราคา ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 17,000 ล้านบาท และมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. ผ่านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว คาดว่าจะเร่งประกาศทีโออาร์ได้เร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงเหลือเส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงิน 24,842.44 ล้านบาท และนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 20,038 ล้านบาท ซึ่งจะประสานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อขอให้เร่งรัดการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถเปิดประกวดราคาได้ภายในปีนี้ตามเป้าหมายรัฐบาล

“การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้เป็นที่จับตามองและมีความคาดหวังสูง ประกอบกับเป็นช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้นการเร่งรัดงานให้รวดเร็วจะต้องมีความรอบคอบและรัดกุมด้วย โดยเฉพาะการลงทุนโครงการขนาดใหญ่”

ส่วนความคืบหน้าการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 3 (งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้าบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) นั้น นายออมสินกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ได้เร่งรัดให้ ร.ฟ.ท.สรุปผลการประมูล ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้อนุมัติวงเงินที่มีการเจรจาล่าสุดแล้ว โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC Consortium (บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd บริษัท Hitachi และ บริษัท Sumitomo Corporation) ปรับลดราคามาอยู่ที่ 32,399 ล้านบาท สูงกว่ากรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติที่ 27,926 ล้านบาท และสูงกว่ากรอบวงเงินที่บอร์ดเคยเห็นชอบในการปรับใหม่ที่ 30,500 ล้านบาท ดังนั้น ร.ฟ.ท.จะต้องชี้แจงเหตุผลที่ทำให้วงเงินมาอยู่ที่ 32,399 ล้านบาท นำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอ ครม.พิจารณาปรับเพิ่มกรอบวงเงินต่อไป

“รถไฟต้องเร่งสรุปเรื่องนี้ เพราะกังวลว่าหากการก่อสร้างสัญญา 1 และ 2 เสร็จจะมีปัญหาสายสีแดงไม่มีรถวิ่ง เนื่องจากหลังจากได้ข้อสรุปสัญญาที่ 3 ยังมีอีกหลายขั้นตอน และหลังเซ็นสัญญาจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการจัดหาอีก 48 เดือนหรือ 4 ปี”

นอกจากนี้ ได้เร่งรัด ขสมก.ในเรื่องการจัดหารถเมล์ NGV 489 คัน ซึ่งมีการร้องเรียน โดยได้รับรายงานว่า ทางกระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) จะพิจารณาการอุทธรณ์ของบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และตัดสินเรื่องดังกล่าวในวันที่ 3 ก.ย.นี้ โดยเป้าหมายของรัฐบาลต้องการเร่งรัดการจัดหาเพื่อนำรถเมล์ใหม่มาให้บริการประชาชนเร็วที่สุด ในขณะที่ ขสมก.รายงานว่า ขณะที่มีรถเก่าหมดสภาพจอดอยู่เฉยๆ ประมาณ 786 คัน มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่าอู่จอดและค่ารักษาความปลอดภัย 4.5 แสนบาทต่อเดือน ดังนั้นให้เร่งไปทบทวนแผนและมติ ครม.ที่ห้ามขายซากรถดังกล่าวและเสนอมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายลง
กำลังโหลดความคิดเห็น