“พาณิชย์” เตรียมเปิดตัวโลว์คอสต์สโตร์ 19 มิ.ย.นี้ นำร่องเปิด 136 ร้านทั่วประเทศ ขายสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน 30 รายการถูกกว่าในห้าง เผยสินค้าเด็ด มีทั้งยาสีฟัน น้ำดื่ม ผงซักฟอก แชมพู สบู่ น้ำมันพืช ซอสมะเขือเทศ น้ำปลา ราคาถูกกว่าในห้างตั้งแต่ 2 บาทไปจน 20 กว่าบาท ส่วนข้าวถุง “ลุงตู่” นัดถกรายละเอียด 12 มิ.ย.นี้ มั่นใจราคาขายถูกกว่าท้องตลาดแน่นอน
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่ากากระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการร้านขายสินค้าราคาถูก (โลว์คอสต์สโตร์) ว่า กระทรวงพาณิชย์จะทำการเปิดตัวโลว์คอสต์สโตร์ในวันที่ 19 มิ.ย. 2558 ซึ่งเบื้องต้นจะนำร่องเปิดจำหน่ายสินค้าราคาถูกจำนวน 136 ร้านทั่วประเทศ เช่น ห้างแจ่มฟ้าพลาซ่า จ.ลำพูน ห้างเกียรติสินโฮลเซล จ.ขอนแก่น บริษัท ค้าสมัยค้าส่ง จ.ยะลา และบริษัท ดีดี ธัญการย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนตามนโยบายที่ได้รับมอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ สินค้าที่จะนำมาจำหน่ายในโลว์คอสต์สโตร์เบื้องต้นมีประมาณ 30 รายการ ซึ่งเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่ราคาจะถูกกว่าที่จำหน่ายในห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่และในห้างสรรพสินค้า เพราะสินค้าเหล่านี้ ไม่มีต้นทุนด้านการบริหารจัดการ ต้นทุนค่าโฆษณา และการสั่งซื้อจากผู้ผลิตก็ได้ราคาถูกกว่าปกติ เนื่องจากเป็นการรวมกลุ่มกันซื้อ โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ช่วยประสานงานไปยังผู้ผลิตให้
“สินค้าที่จำหน่ายในโลว์คอสต์สโตร์เป็นสินค้าแบรนด์เดียวกันกับที่จำหน่ายในห้าง แต่ขายได้ราคาถูกกว่าเพราะไม่มีต้นทุน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะช่วยทำการประชาสัมพันธ์ให้ว่าในพื้นที่นี้ จังหวัดนี้มีโลว์คอสต์สโตร์จำหน่ายสินค้าราคาถูกอยู่ รวมทั้งจะผลักดันให้มีการเปิดโลว์คอสต์สโตร์ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่านี้อีก” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
สำหรับสินค้าที่จะนำไปจำหน่ายในโลว์คอสต์สโตร์ที่มีราคาถูกกว่าสินค้าที่จำหน่ายในห้าง เช่น ยาสีฟันคอลเกต ขนาด 150 กรัม (หลอดแฝด) ในห้าง 155 บาท ในโลว์คอสต์สโตร์ 131.50 บาท ประหยัด 23.50 บาท น้ำดื่มเพียวไลฟ์ ขนาด 600 มิลลิลิตร (แพก 12 ขวด) ในห้าง 63.75 บาท ในโลว์คอสต์สโตร์ 46.25 บาท ประหยัด 17.50 บาท ผงซักฟอกบรีสเอกเซล ขนาด 800 กรัม ในห้าง 89.75 บาท ในโลว์คอสต์สโตร์ 77.25 บาท ประหยัด 12.50 บาท แชมพูซัลซิล (นูริชชิ่ง) ขนาด 340 มิลลิลิตร ในห้าง 99 บาท ในโลว์คอสต์สโตร์ 87 บาท ประหยัด 12 บาท สบู่ก้อนลักส์ (สีส้ม แพก 4) ขนาด 110 กรัม ในห้าง 57.75 บาท ในโลว์คอสต์สโตร์ 48.50 บาท ประหยัด 9.25 บาท น้ำมันถั่วเหลืองตราองุ่น ขนาด 1 ลิตร ในห้าง 55 บาท ในโลว์คอสต์สโตร์ 46 บาท ประหยัด 9 บาท ซอสมะเขือเทศตราไฮนซ์ ขนาด 600 กรัม ในห้าง 48.50 บาท ในโลว์คอสต์สโตร์ 41 บาท ประหยัด 7.50 บาท น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ขนาด 700 มิลลิลิตร ในห้าง 26.75 บาท ในโลว์คอสต์สโตร์ 24.25 บาท ประหยัด 2.50 บาท เป็นต้น
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 12 มิ.ย. 2558 เพื่อร่วมกันหารือการจัดทำข้าวถุงราคาถูกจำหน่ายให้แก่ประชาชนตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี โดยเบื้องต้นมีแนวทางดำเนินการ คือ กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้จัดหาและปรับปรุงข้าวสาร ก่อนจัดส่งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำไปส่งต่อให้สหกรณ์เป็นผู้บรรจุถุง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ โดยให้กระทรวงมหาดไทยควบคุมดูแลการจำหน่ายให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย
“จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อประเมินว่าความต้องการมีมากน้อยแค่ไหน ควรจะจัดทำข้าวถุงในปริมาณเท่าใด และจะจำหน่ายในราคาเท่าใด โดยต้องดูราคาข้าวถุงในตลาดประกอบด้วย เพราะต้องไม่ไปทำลายการค้าขายในระบบปกติ โดยเบื้องต้นน่าจะเป็นข้าวขาว และทำไซส์เดียวกับที่มีขายในตลาด เช่น ขนาดถุง 1 กิโลกรัม หรือ 5 กิโลกรัม แต่ยืนยันได้ว่าราคาของเราจะถูกกว่าในท้องตลาดแน่นอน” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวอีกว่า สำหรับผลการเดินทางเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 2-6 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้นำเข้าญี่ปุ่นได้พิจารณานำเข้าข้าวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 3.25 แสนตัน จากปีที่แล้วนำเข้า 2.95 แสนตัน และจะนำเข้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ โดยจะจัดคณะเดินทางมาเจรจาในไทยเร็วๆ นี้ รวมถึงจะนำเข้าไก่แปรรูป ไก่สดแช่เย็นแช่แข็งเพิ่มขึ้นอีก 5% จากมูลค่านำเข้าประมาณ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกัน ได้แจ้งว่ามีความต้องการขยายตลาดธุรกิจสปาเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้แจ้งว่าสนใจที่จะลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย และยืนยันว่าไทยยังคงเป็นฐานการผลิตยานยนต์เพื่อส่งออกไปอาเซียนและทั่วโลก รวมทั้งขอให้ไทยกำหนดวันเจรจาเปิดตลาดสินค้ารถยนต์ขนาด 3000 ซีซี และการลดภาษีสำหรับสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้ JTEPA
ขณะเดียวกัน ในวันที่ 10-14 มิ.ย. 2558 กระทรวงฯ มีแผนที่จะจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน ครั้งที่ 4 ที่ จ.สงขลา ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยจะจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าทั้งไทยและมาเลเซียรวม 300 คูหา การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจไทย-มาเลเซีย 150 ราย
