“พาณิชย์” เดินหน้าบูมเขตพัฒนาเศรษฐกิจสงขลา นัดหารือร่วมภาครัฐและเอกชนไทย-มาเลย์วันนี้ เพิ่มความร่วมมือขยายการค้า การลงทุน และการขนส่ง พร้อมจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน นำสินค้าจากผู้ประกอบการกว่า 300 รายมาจำหน่าย ช่วยลดค่าครองชีพให้คนพื้นที่ คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท พร้อมเปิดเวทีจับคู่ธุรกิจ 150 ราย ขยายความร่วมมือทางธุรกิจ
พล.อ.ดิฏฐพร ศศะสมิต ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นให้มีการใช้ประโยชน์จากเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล โดยล่าสุดมีกำหนดที่จะหารือร่วมระหว่างภาครัฐกับเอกชนในการเพิ่มความร่วมมือในส่วนของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลาในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ผลักดันให้เกิดความร่วมมือในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่แม่สอด มุกดาหาร และสระแก้วไปแล้ว ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยให้การขยายมูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย มีการขยายตัวได้เพิ่มมากขึ้น
“จะมีการหารือเพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือในด้านการค้า การลงทุน และการขนส่งระหว่างกันให้มากขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า และเพิ่มโอกาสในการขยายการค้า การลงทุนระหว่างกัน ซึ่งหากสามารถเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียได้เพิ่มขึ้นก็จะเป็นส่วนช่วยให้เป้าหมายการผลักดันมูลค่าการค้าชายแดนปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านล้านบาทได้ หลังจากที่ได้มีการกระตุ้นและผลักดันการค้าชายแดนไทยกับพม่า สปป.ลาว และกัมพูชามาแล้ว”
พล.อ.ดิฏฐพรกล่าวว่า ในระหว่างการหารือเพื่อผลักดันเขตพัฒนาเศรษฐกิจสงขลา กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนจังหวัดสงขลาควบคู่กันไปด้วย โดยจะนำสินค้าจากผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ทั้งไทยและมาเลเซีย จำนวนรวมกว่า 300 คูหา ซึ่งถือเป็นความร่วมมือที่จะช่วยนำสินค้าทั้งของไทยและมาเลเซียมาจำหน่าย เพื่อช่วยลดค่าครองชีพและกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายในครั้งนี้ ได้แก่ สินค้า OTOP, SMEs, สินค้ามาตรฐานส่งออก, สินค้าแฟรนไชส์และธุรกิจบริการ สินค้าทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าศิลปาชีพระหว่างประเทศ สินค้าธงฟ้า สินค้าเครื่องจักรกลการเกษตร
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้จัดให้มีการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (บิสิเนส แมชชิ่ง) ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับมาเลเซีย จำนวนรวม 150 ราย โดยเน้นในสินค้า 9 กลุ่มที่มีศักยภาพ ได้แก่ ค้าปลีกค้าส่ง ภัตตาคารและร้านอาหาร อาหารและอาหารแปรรูป สินค้าตกแต่งบ้าน การโรงแรมและการท่องเที่ยว ก่อสร้าง ธุรกิจค้าส่งสินค้าเกษตร ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งคาดว่าจะเกิดความร่วมมือในการทำธุรกิจระหว่างกันเพิ่มขึ้นแน่
สำหรับการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียในปี 2557 มีมูลค่าทั้งสิ้น 507,655 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 51% ของการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยแยกเป็นการส่งออก 274,992 ล้านบาท นำเข้า 232,663 ล้านบาท และในช่วง 4 เดือนของปี 2558 (ม.ค.-เม.ย.) การค้าชายแดนรวมมีมูลค่า 154,000 ล้านบาท เป็นการส่งออก 81,000 ล้านบาท นำเข้า 73,000 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้า เช่น เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เทปแม่เหล็ก จานแม่เหล็กสำหรับคอมพิวเตอร์ สื่อบันทึกข้อมูล ภาพ เสียง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เป็นต้น