กทม.ตั้งเงื่อนรัฐชดเชยขาดทุนรับโอนเดินรถสีเขียวใต้

“ประจิน” จี้ รฟม.เร่งเจรจาเดินรถ 1 สถานี (เตาปูน-บางซื่อ) เหตุช้า 2เดือนแล้ว ด้าน รฟม.เตรียมเสนอเจรจาตรง BMCL เดินรถสีน้ำเงินต่อขยายตามมติ กก.มาตรา 13 ส่วนโอนเดินรถสีเขียวใต้ให้ กทม.ยังไม่ยุติ เผย กทม.เสนอรัฐอุดหนุนการขาดทุนให้เหมือน รฟม. “ประจิน” เร่ง รฟม.หารือ ยันรัฐพร้อมหนุน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เข้ามาหารือและรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่างๆ ซึ่งมี 3 ประเด็น คือ การคัดเลือกเอกชนลงทุนงานระบบรถไฟฟ้าและรับจ้างดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) ระยะทาง 27 กม. ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (มาตรา 13) ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ที่มีนายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าฯ รฟม.ด้านปฏิบัติการเป็นประธาน ได้มีมติให้ใช้วิธีการเจรจาตรงกับ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลการเดินรถสายสีน้ำเงิน เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการเดินรถต่อเนื่องตลอดสายแล้ว ซึ่งได้ให้ รฟม.สรุปและเสนอเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อส่งต่อไปยังคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงการคลังเห็นชอบก่อน จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป

ประเด็นที่ 2 คือการเดินรถไฟฟ้าช่วงสถานีเตาปูน-บางซื่อ ระยะทาง 1 กิโลเมตร ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ซึ่งเป็นรอยต่อกับสายสีน้ำเงิน โดย ครม.มีมติให้เจรจาตรงกับ BMCL เพื่อให้การเดินรถต่อเนื่อง แต่ขณะนี้มีความล่าช้า 2 เดือน ซึ่งได้ให้ รฟม.เร่งรัดการดำเนินงาน ซึ่ง รฟม.ไม่ได้ระบุว่าติดขัดปัญหาใดอย่างชัดเจน ทั้งนี้ การดำเนินโครงการต่างๆ นั้นเป็นหน้าที่โดยตรงของบอร์ดที่จะเร่งรัดและสั่งการไปยังฝ่ายบริหารเพื่อให้โครงการต่างๆ เป็นไปตามแผนงาน ส่วนประเด็นที่ 3 ได้รายงานความคืบหน้ากรณีที่มีการฟ้องร้องต่างๆ

“กรณีเดินรถ 1 สถานี จากเตาปูน-บางซื่อนั้น รฟม.จะต้องเร่งดำเนินการตามมติ ครม. ซึ่งเป็นการเจรจาคนละส่วนกับการเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย” พล.อ.อ.ประจินกล่าว

กทม.เสนอเงื่อนไขรัฐอุดหนุนเดินรถสีเขียวใต้

ส่วนความคืบหน้างานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ล่าสุดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือเงินอุดหนุนการให้บริการ เนื่องจาก กทม.พบว่าหลังจากเปิดให้บริการเดินรถสายสีเขียวใต้จะมีผลตอบแทนต่ำและขาดทุน ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลพร้อมให้การอุดหนุนตามที่ กทม.ต้องการ เพราะถือว่า กทม.และ รฟม.เป็นหน่วยงานภาครัฐเหมือนกัน ขณะที่โครงการนี้ก็เป็นของ รฟม.ด้วย ดังนั้นที่ผ่านมาหากรัฐบาลเคยช่วยเหลือ รฟม.อย่างไร ก็พร้อมช่วยเหลือ กทม.ในลักษณะเดียวกัน

“ทาง กทม.แจ้งว่าการศึกษาพบว่าการเดินรถสายสีเขียวใต้จะมีผลตอบแทนต่ำกว่าที่เขารับได้ คือเปิดเดินรถมาก็ขาดทุนเลย ซึ่งความจริงแล้วถือเป็นเรื่องปกติของระบบขนส่งมวลชนที่ต้องใช้เวลานานมากกว่าจะมีกำไร กทม.จึงอยากให้รัฐช่วยอุดหนุนให้เหมือนที่อุดหนุน รฟม. จึงให้ กทม.กับ รฟม.ไปหารือกัน” พล.อ.อ.ประจินกล่าว

ด้าน พล.อ.ยอดยุทธ ประธานบอร์ด รฟม.กล่าวว่า ปัญหาของ กทม.ยังเป็นเรื่องการเงินที่จะต้องจ่ายค่าก่อสร้างคืนให้ รฟม. ซึ่งหาก กทม.ยังไม่สามารถจัดการปัญหาเรื่องเงินได้ รฟม.อาจตัดสินใจที่จะเดินรถเอง ด้วยการเจรจาตรงกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS พร้อมยืนยันว่าจะไม่ใช่วิธีเปิดประกวดราคาเพื่อหาผู้รับงานเดินรถสายทางนี้แน่นอนเนื่องจากมีระยะทางสั้นแค่ 12.8 กิโลเมตร อีกทั้งยังต่อเชื่อมจากเส้นทางของ BTS ด้วย ดังนั้นการเจรจากับ BTS จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยใช้แนวทางตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556

โดยภายในปีนี้ รฟม.จะต้องสรุปการเดินรถสายสีเขียวใต้ให้ได้แน่นอน ไม่เช่นนั้นจะไม่ทันกำหนดการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2563 เพราะงานโยธาจะเสร็จสิ้นในปี 2561 และต้องใช้เวลาในการจัดหารถพร้อมทดสอบระบบอีกรวมประมาณ 3 ปี