"ประจิน"ยัน ญี่ปุ่นอนุมัติเปิดน่านฟ้าให้สายการบินแบบเช่าเหมาลำสัญชาติไทยที่ผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ความปลอภัย ทำการบินเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่นได้ นับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.- 31พ.ค. หลัง บพ.เซ็น MOU ร่วม JCAB
พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกรมการบินพลเรือน (บพ.) ของไทย กับสำนักการบินพลเรือนของญี่ปุ่น (JCAB) ว่า หลังทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะเร่งปลดล๊อค ข้อบกพร่องที่มีนัยต่อความปลอดภัย (SSC) ตามโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (USOAP) ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) โดย JCAB อนุญาตให้เที่ยวบินแบบไปเช่าเหมาลำ (Charter Flight) สัญชาติไทยที่ผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ความปลอภัย สามารถทำการบินเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่นได้อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน- 31พฤษภาคมนี้ รวมถึงเที่ยวบินประเภทตารางบินประจำและเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำที่เคยให้บริการสู่ญี่ปุ่นแล้วสามารถทำการบินได้ปกติตามที่เคยได้รับอนุมัติไว้ แต่จะต้องให้บริการในเส้นทางบินเดิม และใช้เครื่องบินแบบเดิม ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงแบบเครื่องบิน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้กรมการบินพลเรือนจะดำเนินการส่งแผนและชี้อจงความก้าวหน้าการประเมินสายการบินทั้งหมดของไทยให้ JCAB รับทราบภายในวันที่ 6 เมษายนนี้ และจะเดินทางไปชี้แจงข้อมูลร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศที่ สำนักงานใหญ่ICAO ที่มอนเตริโอ เกาหลี /จีน/ออสเตรเลีย/เยอรมัน และฝรั่งเศส
ทั้งนี้ ฝ่ายสื่อสารองค์กร กรมการบินพลเรือนได้ชี้แจงว่า ตามที่กรมการบินพลเรือนกำลังมีประเด็นที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยกับ ICAO และ JCAB ได้ระงับการรับคำขออนุญาตจากสายการบินต่างๆ ของไทย สำหรับการขอเพิ่มเที่ยวบินและอื่นๆ แต่เมื่อคำนึงถึงฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย JCAB และกรมการบินพลเรือนไทย จึงได้ตกลงลงนามในบันทึกความเข้าใจเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2558 โดยอยู่บนเงื่อนไขที่ว่าจะต้องรับประกันความปลอดภัยของเที่ยวบินไปยังหรือมาจากญี่ปุ่น และด้วยคำนึงถึงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของญี่ปุ่นและไทย ประกอบกับกฎระเบียบของ ICAO จึงไม่เหมาะสมที่จะอธิบายในรายละเอียดของ MOU ดังกล่าว
ทั้งนี้ โครงสร้างของ MOU ประกอบด้วย 1. การพิจารณาประเด็นด้านความปลอดภัยกับ ICAO กรมการบินพลเรือนควรประเมินทบทวน (reevaluate) กระบวนการรับรองเพื่อการออกใบรับรองผู้ดำเนินอากาศของแต่ละสายการบินของไทยและแจ้งผลการประเมินทบทวนให้ JCABทราบ
2.หลังจากที่ทำให้แน่ใจว่าได้มีการปฏิบัติตามกระบวนการรับรองสำหรับสายการบินเช่นดังว่าเป็นที่น่าพอใจแล้ว JCAB อาจกลับมารับคำของของสายการบินของไทยและอาจเห็นชอบหรืออนุญาตแผนการดำเนินการของสายการบินที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยสายการบินที่จะต้องบังคับใช้คือ สายการบินที่ได้ดำเนินในเส้นทางไปยังหรือออกจากญี่ปุ่น ,ในเส้นทางที่ได้ให้บริการอยู่แล้วโดยใช้อากาศยานแบบที่ได้เคยใช้อยู่แล้ว,จากวันที่ 1 เมษายน 2558 - 31 พฤษภาคม 2558
โดยกรณีที่สายการบินที่ให้บริการเฉพาะเที่ยวบินเช่าเหมาลำไปยังหรือออกจากญี่ปุ่น จะเห็นชอบจำกัดเฉพาะกรณีบริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำเท่านั้น
