ร.ฟ.ท.ทยอยรับมอบหัวจักรใหม่ 2 คัน ตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถขนส่งสินค้า เผยรับมอบครบ 20 หัวจะเพิ่มรายได้จากสินค้าอีก 30% จากปัจจุบันที่มีรายได้ 500 ล้านบาทต่อปี วางแผนใช้ในเส้นทางไอซีดีลาดกระบัง-แหลมฉบังเป็นหลัก ที่เหลือกระจายขนส่งสินค้าจาก CY ในภูมิภาค พร้อมเร่งจัดหาให้ครบ 100 คันใน 2.5 ปี ดึงสินค้าใช้รางแทนรถบรรทุกลดต้นทุนลอจิสติกส์
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีรับมอบรถจักรดีเซลไฟฟ้า หมายเลข 5101 และ 5102 ที่สถานีชุมทางศรีราชา จังหวัดชลบุรีวันนี้ (23 ม.ค.) ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ลงนามจัดซื้อจากบริษัทซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทผู้ผลิต CSR Qishuya Co.,Ltd จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 20 คัน วงเงิน 3,300 ล้านบาท โดยมีการส่งมอบ 2 คันแรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งจากสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่องลาดกระบัง หรือไอซีดี และรองรับปริมาณสินค้าที่จะขนส่งจากย่านกองเก็บตู้สินค้าในภูมิภาคต่างๆ ที่ใช้เป็นศูนย์กระจายการขนส่งในภูมิภาค เป็นการสนับสนุนการส่งออกโดยผ่านท่าเรือแหลมฉบัง และขยายตลาดในการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ช่วยลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มรายได้ในการขนส่งสินค้าทางรถไฟได้มากขึ้น
โดยเมื่อรับมอบครบ 20 คันการขนส่งสินค้าจะรวดเร็วมากขึ้น ทำให้ปริมาณการรับส่งสินค้าทางรถไฟได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตามแผนงานพัฒนาขนส่งทางรางนั้นในปี 2558-2560 จะมีการดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่ขนาด 1 เมตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเดินรถให้รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น และจัดหาหัวรถจักรและตู้สินค้าตู้โดยสารเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร เพื่อให้การขนส่งสินค้าจากรถบรรทุกมาเป็นรถไฟมากขึ้น ลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์
นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า หัวรถจักร 20 คันมีน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน/เพลา ซึ่งจะสามารถรองรับลากจูงได้ถึง 40 แคร่ ซึ่งมากกว่าหัวรถจักรปัจจุบันที่ลากจูงได้ที่ 30 แคร่ หรือรับตู้สินค้าได้ 60 ทีอียู ซึ่งจะทำให้รถไฟไทยมีขีดความสามารถด้านกำลังหัวจักรเทียบเท่ากับทางมาเลเซีย และเป็น 2 ประเทศผู้นำในอาเซียน และหากนำไปใช้บนทางขนาดราง 1.435 เมตรจะยิ่งเต็มประสิทธิภาพ โดยจะทยอยรับมอบล็อตต่อไปอีก 8 คัน และอีก 10 คันครบภายในปี 2558 ซึ่งแผนการใช้งานเมื่อครบ 20 หัวนั้น จะแบ่งหัวรถจักร 7 คันสำหรับขนส่งตู้สินค้าจากไอซีดีลาดกระบัง-แหลมฉบัง และหัวรถจักรที่เหลืออีก 13 คันจะนำไปใช้สำหรับรถสินค้าทั่วไป กลุ่มเกษตร พลังงาน ปูนซีเมนต์ ในภูมิภาคที่มีศูนย์กระจายสินค้า และย่านกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard) เพื่อให้การขนส่งสินค้าเปลี่ยนโหมดจากรถยนต์มาใช้ทางรถไฟมากขึ้นตามนโยบายรัฐบาล ความเร็ว 100 กม./ชม.
ทั้งนี้ คาดว่าหัวรถจักร 20 หัวจะเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าและสร้างรายได้เพิ่มให้ ร.ฟ.ท.อีกประมาณ 30% จากปัจจุบันรถไฟมีรายได้จากการขนส่งสินค้าประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี และ ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างการจัดหารถจักรเพิ่มอีก 80 หัว ให้ครบตามแผน จัดหาหัวจักรใหม่ 100 หัว โดยจะทยอยจัดหาอีก 50 หัว และ 30 หัว น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลาครบภายใน 2.5 ปี ซึ่งจะทำให้การขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า ซึ่งเป็นไปตามแผนฟื้นฟูการรถไฟฯ โดยจะทำให้ขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า
สำหรับโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 20 คัน ทาง ร.ฟ.ท.ได้สั่งซื้อโดยวิธีประกวดราคาสากล และลงนามสัญญาการจัดซื้อเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2556 และเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมารถจักรไฟฟ้าดังกล่าวได้เดินทางถึงท่าเรือแหลมฉบัง และมีกระบวนการทดสอบระบบรถจักรซึ่งเป็นขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัย และหลังจากนี้บริษัทผู้ผลิตจะทยอยจัดส่งรถจักรไฟฟ้าอีก 18 คันภายในปี 2558
