ศูนย์ข่าวศรีราชา - พบพิรุธตู้คอนเทนเนอร์ไม้ของกลางต้องสงสัยอาจไม่ตรงต่อเอกสารสำแดง หลังจาก DSI ส่งตู้สินค้าต้องสงสัยเข้าตรวจสอบที่ศุลกากรแหลมฉบัง พร้อมอายัดทั้ง 30 ตู้ เตรียมเปิดตู้พรุ่งนี้ โดยประสาน สปป.ลาว และกรมป่าไม้ร่วมตรวจสอบ
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้านำเข้ามาจากประเทศลาว จำนวน 30 ตู้ เพื่อเตรียมส่งออกไปประเทศจีน ต้องสงสัยว่าอาจจะมีไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ จึงนำเข้าตรวจสอบภายในตู้สินค้าที่ศูนย์เอกซเรย์ ศุลกากรแหลมฉบัง ขณะนี้ได้ประสานงานกับทางการ สปป .ลาว และผู้เชี่ยวชาญของกรมป่าไม้ เพื่อเปิดตู้ตรวจสอบ ล่าสุด ได้นำตู้สินค้าทั้ง 30 ตู้ ไปไว้ที่ท่าเทียบเรือ A0 ท่าเรือแหลมฉบัง แต่ปรากฏว่ามีการแยกจำนวนตู้สินค้าไว้คนละท่า ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลตู้สินค้าไม่ทราบ คิดว่าตู้สินค้าหาย และทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากดีเอสไอ เผยว่า ขณะนี้ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 30 ตู้ ที่มีการซีลประทับตราผ่านกระบวนการศุลกากรลาว ขนส่งทางแพข้ามมายังฝั่งประเทศไทย ที่ท่าแม่น้ำโขง บ้านนาหินโหง่น ต.พะลาน อ.นาตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของด่านศุลกากรเขมราฐ เนื่องจากได้รับรายงานว่า อาจจะมีการซุกซ่อนไม้พะยูงที่ถูกลักลอบตัดจากฝั่งไทย ส่งไป สปป.ลาว ก่อนตีย้อนเข้าประเทศไทย ผ่านไปยังประเทศที่ 3
ทั้งนี้ บริษัทที่รับขนย้ายได้ยื่นคำร้องคัดค้านการเปิด อ้างว่า ต้องขออนุญาตผ่านสถานทูตตามกระบวนการตามข้อตกลงบาร์เซโลนา เนื่องจากตู้ได้ผ่านพิธีการศุลกากรของ สปป.ลาว มาแล้ว และเป็นสินค้าผ่านแดน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทาง DSI ได้ทำการอายัดตู้สินค้าไว้ทั้ง 30 ตู้ โดยห้ามนำออกนอกประเทศ พร้อมทั้งได้จัดกำลังเฝ้าอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีข้อน่าสงสัยหลายประการ หลังจากดูภาพจากเครื่องเอกซเรย์ เพราะลักษณะที่ทำให้เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นไม้พะยูง ซึ่งต้องรอการเปิดตู้เท่านั้นจึงสามารถเห็นภาพได้ชัดเจน อีกทั้งยังมีการกระจายตู้สินค้าไปอยู่ที่ท่าเทียบเรือหนึ่ง ทั้งที่มีการแจ้งว่าสินค้าต้องลงที่เรือท่าเทียบเรือ A0
ด้าน นายสัมพันธ์ จารุรัตนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า กรณีตู้สินค้าผ่านแดนจาก สปป.ลาว ซึ่งทางเราได้รับการประสานงานจากดีเอสไอ ว่า ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 30 ตู้ ที่มีการซีลประทับตราผ่านกระบวนการศุลกากรลาว ขนส่งทางแพข้ามมายังฝั่งประเทศไทย ที่ท่าแม่น้ำโขง บ้านนาหินโหง่น ต.พะลาน อ.นาตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของด่านศุลกากรเขมราฐ เนื่องจากได้รับรายงานว่าอาจจะมีการซุกซ่อนไม้พะยูงอยู่
จึงได้ประสานงานขอให้ทางศุลกากรได้ทำการตรวจสอบ เนื่องจากบริษัทที่รับขนย้ายได้ยื่นคำร้องคัดค้านการเปิด อ้างว่า ต้องขออนุญาตผ่านสถานทูตตามกระบวนการ ตามข้อตกลงบาร์เซโลนา เนื่องจากตู้ได้ผ่านพิธีการศุลกากรของ สปป. ลาว มาแล้ว และเป็นสินค้าผ่านแดน
หลังจากที่ทำการตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์แล้วพบว่า มีตู้สินค้าบางตู้ที่ต้องสงสัยว่าอาจจะเป็นไม้พะยูง ซึ่งจากเอกสารที่สำแดงมาคือ ไม้ประดู่ หรือไม้กระยาเลย ดังนั้น จึงต้องมีการเปิดตู้สินค้าดูเพื่อให้เห็นชัดเจน หากเป็นเช่นนี้หน้าที่ของศุลกากรคือ การสำแดงเท็จ ก็ต้องดำเนินการไปตามหน้าที่ และข้อกฎหมาย
ด้าน ร.อ.สุทธินันท์ หัตถวงศ์ ผอ.การท่าเรือแหลมฉบัง เผยว่า เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจริงๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวกับเราโดยตรง ท่าเรือเป็นพื้นที่ให้บริการการขนส่งสินค้าเท่านั้น และตู้สินค้าดังกล่าวจะลงเรือที่ท่าเทียบเรือ A0 เพื่อส่งต่อไปยังประเทศของทางเจ้าของสินค้า ฉะนั้นเราจะรู้เพียงแค่ว่าตู้สินค้าที่เข้ามาคืออะไรตามเอกสารแนบ
ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่าทำไมตู้สินค้าจึงแยกกันไม่ไปรวมอยู่ที่ตู้ท่าเดียวกันทั้งที่มีการแจ้งว่าจะลงที่ท่าเทียบเรือเพียงท่าเดียว ซึ่งกรณีนี้ก็สามารถเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการส่งเอกสาร แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ได้มีการขนย้ายตู้สินค้าทั้งหมดมาไว้รวมกันที่ท่าเรือ A0 ทั้งหมดแล้ว และทราบว่า พรุ่งนี้ (22 ม.ค.) ทาง DSI ได้ประสานกับทางกรมป่าไม้ ท่าเรือ ศุลกากร และสถานทูต สปป.ลาว เพื่อทำการเปิดตู้สินค้าดังกล่าว
