ศูนย์ข่าวศรีราชา - ไร้แวว จนท.ลาวร่วมเปิดตู้ต้องสงสัยจาก สปป.ลาว ผ่านท่าเรือแหลมฉบัง หลังดีเอสไอประสานทุกหน่วยงานแล้ว ขณะที่ตู้สินค้าบางส่วนต้องลงเรือเย็นนี้
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้านำเข้าจากสปป.ลาว 30 ตู้ เพื่อเตรียมส่งออกไปประเทศจีน ตรวจสอบภายในตู้ที่ศูนย์เอกซเรย์ ศุลกากรแหลมฉบัง พร้อมมีกำหนดเปิดตู้สินค้าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (22 ม.ค.) เวลา 09.00 น.ที่บริเวณท่าเทียบเรือ A0 ท่าเรือแหลมฉบัง เนื่้องจากต้องสงสัยว่าอาจจะมีไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์
วันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณท่าเทียบเรือ A0 ท่าเรือ แหลมฉบัง พบว่า ไม่มีการเปิดตู้สินค้าแต่อย่างใด จากการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบว่า ได้รับการแจ้งว่าได้มีการยกเลิกการเปิดตู้สินค้าที่มาจาก สปป.ลาวไว้ก่อน เนื่องจากต้องมีทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประกอบด้วย ดีเอสไอ ศุลกากร กรมป่าไม้ ท่าเรือ และเจ้าหน้าที่จากสถานทูต สปป.ลาว แต่เนื่องจากทางสถานทูต สปป.ลาว ไม่ส่งคนมาจึงทำให้ไม่สามารถเปิดตู้ได้
แหล่งข่าวระดับสูงจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตู้คอนเทนเนอร์ 30 ตู้ ที่มีการซีลประทับตราผ่านกระบวนการศุลกากรลาว ขนส่งทางแพข้ามมายังฝั่งประเทศไทย ที่ท่าแม่น้ำโขง บ้านนาหินโหง่น ต.พะลาน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของด่านศุลกากรเขมราฐ ได้รับรายงานว่า อาจจะมีการซุกซ่อนไม้พะยูงที่ถูกลักลอบตัดจากฝั่งไทยส่งไป สปป.ลาว แล้วย้อนเข้าประเทศไทยเพื่อส่งผ่านไปยังประเทศที่ 3 โดยบริษัทที่รับขนย้ายได้ยื่นคำร้องคัดค้านการเปิด อ้างว่าต้องขออนุญาตผ่านสถานทูตตามกระบวนการข้อตกลงบาร์เซโลน่า เนื่องจากตู้ได้ผ่านพิธีการศุลกากรของ สสป.ลาวมาแล้ว และเป็นสินค้าผ่านแดน แต่เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ไม่เดินทางมา ทำให้ไม่สามารถเปิดตู้ตรวจได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีเอสไอได้อายัดตู้สินค้าไว้ทั้ง 30 ตู้ ห้ามนำออกนอกประเทศ โดยพบว่ามีตู้ที่ต้องสงสัย 6 ตู้ หลังจากดูภาพจากเครื่องเอกซเรย์ และตู้สินค้ามีน้ำหนักเกิน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปทางสถานทูต สปป.ลาว โดยทำเอกสารถึงเจ้าหน้าที่ว่า ขอความร่วมมือให้มาร่วมในการเปิดตู้สินค้าวันที่ 26 มกราคม หากไม่มีเจ้าหน้าที่มาก็ต้องทำเอกสารรับรองมาแทน
“โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องการที่จะทำงานให้รวดเร็วเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อธุรกิจ เพราะทราบว่าในวันนี้ถึงกำหนดเวลาที่ตู้สินค้าจะต้องลงเรือ 6 ตู้ ส่วนที่เหลืออีก 24 ตู้ จะต้องลงเรือวันที่ 24 มกราคม และทราบว่า ทางเจ้าของสินค้าจะขอทำเรื่องนำสินค้ากลับด้วย”