พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงผลการหารือร่วมกับนายหู จู่ฉาย รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในการประชุมร่วมไทย-จีน เพื่อความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทย ครั้งที่ 1 ว่า การประชุมในครั้งนี้ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างกัน และตั้งคณะกรรมการบริหารงานร่วมกัน 2 ฝ่าย ทั้งระดับนโยบายและระดับการบริหาร เพื่อความสะดวกในการวางแผนสำรวจออกแบบ การประมาณการด้านราคาและบทบาทหน้าที่ในการรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย
ในส่วนของไทยได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 3 ด้าน และจะหารือร่วมกันอีกครั้ง โดยจีนเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์นี้ ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งจะหารือถึงรูปแบบการลงทุน บริษัทผู้รับเหมา รวมถึงแหล่งเงินทุน เบื้องต้นมี 3 รูปแบบ คือ การกู้เงินจากจีนในลักษณะเงินอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษ การกู้โดยรัฐบาลและเอกชนร่วมกัน (PPP) และลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐต่อรัฐ ซึ่งการพิจารณาขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้และผลตอบแทน อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคมนี้ ไทยและจีนจะจัดทีมสำรวจการก่อสร้างอย่างเป็นทางการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับผลการหารือในครั้งที่ 1 ไทยและจีนเห็นพ้องร่วมกันถึงแผนงานการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 734 กิโลเมตร และเส้นทางกรุงเทพ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กิโลเมตร โดยแบ่งการก่อสร้างเป็น 4 ช่วง 2 ระยะ เพื่อให้ง่ายต่อการก่อสร้างและจะทำให้รวดเร็วขึ้น โดยช่วงที่ 1 เส้นทางกรุงเทพ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กิโลเมตร และช่วงไม่เกินเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้ จะเริ่มก่อสร้างได้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี 6 เดือน หากเป็นไปตามแผนจะเปิดให้บริการเดินรถได้ในเดือนธันวาคม 2560
ระยะที่สอง จะเป็นการก่อสร้างช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 138.5 กิโลเมตร และช่วงที่ 4 นครราชสีมา –หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนธันวาคมนี้ หรือไม่เกินช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณกว่า 3 ปี หากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะเปิดให้บริการเดินรถได้ในเดือนมีนาคม 2561
ส่วนเส้นทางรถไฟของไทยจากภาคใต้เชื่อมไปยังประเทศมาเลเซียน โดยช่วงนี้จะเน้นการพัฒนาปรับปรุงรางปัจจุบันที่มีขนาด 1 เมตร พร้อมและยกระดับหัวรถจักรจากใช้ดีเซลเป็นระบบไฟฟ้า เพื่อให้มีความสมบูรณ์ในการเชื่อมโยง เนื่องจากประเทศมาเลเซียใช้ราง 1 เมตร แต่เป็นระบบไฟฟ้า
ในส่วนของไทยได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 3 ด้าน และจะหารือร่วมกันอีกครั้ง โดยจีนเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์นี้ ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งจะหารือถึงรูปแบบการลงทุน บริษัทผู้รับเหมา รวมถึงแหล่งเงินทุน เบื้องต้นมี 3 รูปแบบ คือ การกู้เงินจากจีนในลักษณะเงินอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษ การกู้โดยรัฐบาลและเอกชนร่วมกัน (PPP) และลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐต่อรัฐ ซึ่งการพิจารณาขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้และผลตอบแทน อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคมนี้ ไทยและจีนจะจัดทีมสำรวจการก่อสร้างอย่างเป็นทางการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับผลการหารือในครั้งที่ 1 ไทยและจีนเห็นพ้องร่วมกันถึงแผนงานการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 734 กิโลเมตร และเส้นทางกรุงเทพ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กิโลเมตร โดยแบ่งการก่อสร้างเป็น 4 ช่วง 2 ระยะ เพื่อให้ง่ายต่อการก่อสร้างและจะทำให้รวดเร็วขึ้น โดยช่วงที่ 1 เส้นทางกรุงเทพ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กิโลเมตร และช่วงไม่เกินเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้ จะเริ่มก่อสร้างได้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี 6 เดือน หากเป็นไปตามแผนจะเปิดให้บริการเดินรถได้ในเดือนธันวาคม 2560
ระยะที่สอง จะเป็นการก่อสร้างช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 138.5 กิโลเมตร และช่วงที่ 4 นครราชสีมา –หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนธันวาคมนี้ หรือไม่เกินช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณกว่า 3 ปี หากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะเปิดให้บริการเดินรถได้ในเดือนมีนาคม 2561
ส่วนเส้นทางรถไฟของไทยจากภาคใต้เชื่อมไปยังประเทศมาเลเซียน โดยช่วงนี้จะเน้นการพัฒนาปรับปรุงรางปัจจุบันที่มีขนาด 1 เมตร พร้อมและยกระดับหัวรถจักรจากใช้ดีเซลเป็นระบบไฟฟ้า เพื่อให้มีความสมบูรณ์ในการเชื่อมโยง เนื่องจากประเทศมาเลเซียใช้ราง 1 เมตร แต่เป็นระบบไฟฟ้า
