ปตท.ยอมรับการแยกกิจการท่อก๊าซฯ เป็นบริษัทใหม่ไม่ทันกลางปี 58 หากกฤษฎีกาขี้ขาด ปตท.ต้องโอนท่อก๊าซฯ ในทะเล เหตุต้องเริ่มต้นแยกทรัพย์สินใหม่ รวมทั้งเจรจากับกรมสรรพากร และคลังเพื่อจ่ายภาษีและโอนและเช่าท่อต่อ ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ใช้เวลานาน 9 เดือน
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปตท.อยู่ระหว่างรอการวินิจฉัยชี้ขาดจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากรณีท่อก๊าซฯ หลังจากบริษัทฯ ได้ดำเนินการแยกบัญชีท่อก๊าซฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยอมรับว่าหากกฤษฎีกาวินิจฉัยให้ ปตท.ไม่ต้องคืนท่อก๊าซฯ ในทะเลและบนบกเพิ่มเติม การดำเนินการเพื่อแยกกิจการท่อก๊าซฯ ของ ปตท.ออกมาเป็นบริษัทขึ้นมาดูแลเฉพาะก็คงทำได้เร็วตามกำหนดคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติไว้ให้แล้วเสร็จกลางปี 2558
แต่หากการวินิจฉัยกฤษฎีกาออกมาให้ ปตท.ต้องคืนทรัพย์สินท่อก๊าซฯ ในทะเล จะมีผลทำให้ทรัพย์สินลดน้อยลง มีผลต่อการตั้งบริษัทใหม่ คงต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่าการแยกกิจการท่อก๊าซฯ เป็นบริษัทใหม่คงไม่ทันกลางปี 2558 แน่นอน
เนื่องจาก ปตท.ต้องเริ่มดำเนินการแยกทรัพย์สินใหม่ รวมทั้งดำเนินการเจรจากับกระทรวงการคลัง และกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษี การโอนและเช่าสิทธิ์ท่อก๊าซฯ ซึ่งจะใช้เวลานาน ซึ่งเดิมในการแยกท่อก๊าซฯ ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์จะใช้เวลาประมาณ 9 เดือน และระหว่างนี้ ปตท.ได้ระงับการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวไปก่อนจนกว่ากฤษฎีกาจะชี้ขาดออกมาตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการจัดการองค์กรภายใน ปตท.ก็ยังเดินหน้าต่อไปทั้งการปรับโครงสร้างและบุคลากร หากมีการแยกกิจการท่อก๊าซฯ ออกมาเป็นบริษัทใหม่ ทันทีที่นโยบายออกมาชัดเจน รวมทั้งดำเนินการเรื่องให้บุคคลที่ 3 สามารถเข้าใช้บริการท่อส่งก๊าซฯ ได้ด้วยจากเดิมที่ ปตท.เป็นผู้ใช้บริการเพียงรายเดียว เพื่อให้ธุรกิจท่อก๊าซฯ มีการแข่งขันที่เป็นธรรมในอนาคต และ ปตท.ยังได้หารือกับหน่วยงานรัฐเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ทำหนังสือถึง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจให้ทบทวนการแบ่งแยกทรัพย์สินของ บมจ.ปตท.กรณีท่อก๊าซธรรมชาติยังคืนไม่ครบถ้วนตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด โดยยังขาดการโอนท่อก๊าซฯ ในทะเลและบนบกบางส่วน คิดเป็นมลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ก่อนที่ ปตท.จะแยกกิจการท่อก๊าซธรรมชาติออกมาตั้งบริษัทใหม่ ซึ่ง คสช.ได้สั่งให้ ปตท.ระงับการแยกท่อก๊าซฯ ออกเป็นบริษัทใหม่จนกว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ
