ทูตเยอรมนีนำผู้บริหาร “ซีเมนส์” พบ “ประจิน” เสนอตัวขอร่วมในงานเดินรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และรถไฟทางคู่ ฟุ้งมีเทคโนโลยีวางระบบรางและอาณัติสัญญาณทั้งรางขนาด 1 เมตร และ 1.435 เมตร และรางแบบ Combine คือ 2 ขนาดในทางวิ่งเดียวกัน ระบุพร้อมร่วมทุนแบบจีทูจี
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง นายรอล์ฟ ชูลเซอ เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหาร บริษัท ซีเมนส์ จำกัด (Siemens Limited ประกอบธุรกิจด้านวิศวกรรมไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐาน พลังงานและการแพทย์) และ บริษัท สตาร์แบ็ค (STABAG) เข้าพบวันนี้ (19 พ.ย.) ว่า บริษัทซีเมนส์แสดงความสนใจที่จะมีส่วนร่วมในงานเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งได้ชี้แจงไปว่าขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องการเดินรถ นอกจากนี้ ซีเมนส์ยังได้นำเสนอเทคโนโลยีในการวางระบบราง ทั้งขนาดความกว้าง 1 เมตร (Meter Gauge) และขนาดความกว้าง 1.435 เมตร (Standard gauge) และรางแบบ Combine ซึ่งจะเป็นการวางรางขนาด 1 เมตร และ 1.435 เมตรใช้งานได้ร่วมกัน 2 ระบบในแนวทางวิ่งเดียวกัน โดยบริษัท STABAG ซึ่งเป็นบริษัทลูกของซีเมนส์นั้นมีความเชี่ยวชาญอย่างมาก
ทั้งนี้ จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลเบื้องต้นแล้ว เห็นว่าเทคโนโลยีที่ซีเมนส์นำเสนอนั้น ถือว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ จึงได้มอบหมายให้ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายรณชิต แย้มสะอาด รักษาการผู้ว่าฯ รฟม. หารือในรายละเอียดร่วมกันต่อไป โดยซีเมนส์เสนอเงื่อนไขในการเข้าร่วมงานด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) รวมถึงพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ไทย และฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ไทยทั้งด้านเทคนิคและด้านวิศวกรรมให้ ซึ่งที่ผ่านมาทางซีเมนส์ได้อบรมเจ้าหน้าที่ให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์มาแล้ว ดังนั้น เชื่อว่าทางซีเมนส์จะสามารถดำเนินงานในโครงการเก่าที่มีได้อย่างต่อเนื่อง และหากได้ร่วมดำเนินงานในโครงการใหม่จะทำได้ตามนโยบายรัฐบาล
“ซีเมนส์ได้มาพูดคุยถึงการดำเนินงานต่างๆ ที่ผ่านมา ซึ่งซีเมนส์ได้เข้ามาลงทุนในไทย ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส, แอร์พอร์ตลิงก์ และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และมาเสนอที่จะลงทุนเพิ่มในงานด้านขนส่งในอนาคต และด้านพลังงาน”