“ปลัดคมนาคม” สั่ง สนข.เตรียมข้อมูลแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งแผนเร่งด่วนปี 57-58 และแผน 8 ปีเสนอ “ประจิน” พร้อมชงอนุมัติรถไฟฟ้าสีชมพู และงานปรับแบบสถานีกลางบางซื่อก่อนเสนอ ครม.เห็นชอบเดินหน้า ยันรถไฟทางคู่ 2 สายเปิดประมูลได้ในปีนี้ เผยเจ้าหน้าที่เตรียมห้องทำงานรับ รมว.คมนาคมคนใหม่ คาด “ประจิน” เข้ากระทรวงเป็นทางการ 4 ก.ย.
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดเตรียมข้อมูลรายละเอียดโครงการต่างๆ ที่สำคัญเพื่อเตรียมเสนอ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยประกอบด้วย โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ในแผนดำเนินงานเร่งด่วนปี 2557-2558 และแผนการจัดทำยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งของไทย ระยะเวลา 8 ปี (2558-2565) ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อนุมัติในหลักการแล้ว รวมทั้งแผนฟื้นฟูกิจการหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่ขาดทุน 3 แห่ง คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการก่อสร้างและจะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นได้เตรียมเสนอให้ พล.อ.อ.ประจินพิจารณาลงนาม ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร วงเงิน 58,642 ล้านบาท และการปรับแบบสถานีกลางบางซื่อของรถไฟสายสีแดง รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1 กิโลเมตร วงเงิน 55,986 ล้านบาท และสายสีส้ม เฟสแรก ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี วงเงินประมาณ 90,000 ล้านบาท
“จะต้องเตรียมข้อมูลให้ครบถ้วน โดยต้องระบุรายละเอียดวงเงินลงทุน แหล่งเงินทุน เช่น จะใช้เงินกู้สัดส่วนเท่าไร ซึ่งตอนนี้มี 2 โครงการที่พร้อมเสนอ ครม.แล้ว เหลือเพียงให้ รมว.คมนาคมอนุมัติเท่านั้น คือ สายสีชมพู กับการปรับแบบสถานีกลางบางซื่อ” นางสร้อยทิพย์กล่าว
สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางของ ร.ฟ.ท.นั้น นางสร้อยทิพย์กล่าวยืนยันว่า ภายในปลายปีนี้จะสามารถเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาได้ 2 เส้นทางแน่นอน คือ สายชุมทางจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงิน 26,007 ล้านบาท และสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,293 ล้านบาท โดยขณะนี้ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียดเรื่องสิ่งแวดล่อม (EIA) หลังจากได้รับการอนุมัติมาแล้ว ส่วนเส้นทางที่ 2 กำลังรอเข้าที่ประชุม EIA รอบสุดท้ายซึ่งมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแน่นอน ส่วนอีก 3 สายทางที่เหลือจะสามารถดำเนินการได้ประมาณต้นปี 2558 ประกอบด้วย สายนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 20,038 ล้านบาท สายมาบกะเบา-นครราชสีมา ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 29,855 ล้านบาท และสายลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงิน 24,842 ล้านบาท
นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า ได้เรียกประชุมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อติดตามและประเมินผลตัวชี้วัดตามเป้าหมายแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาลอจิสติกส์ของประเทศ (พ.ศ. 2556-2560 จำนวน 111 โครงการ วงเงิน 708,410 ล้านบาท) ประจำปีงบประมาณ 2556 ปรากฏว่ามีโครงการที่ดำเนินการรวม 34 โครงการ วงเงิน 54,154 ล้านบาท คิดเป็น 23% จากโครงการในแผนทั้งหมด
โดยพบว่ามีโครงการที่สามารถดำเนินการได้ตามแผน 18 โครงการ ล่าช้ากว่าแผน 12 โครงการ และไม่สามารถดำเนินการได้ 4 โครงการ ขณะที่มีโครงการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2556 จำนวน 2 โครงการ คือ การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง (สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4) ของกรมทางหลวง และโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ ประกอบการขนส่งสินค้าทางถนนรองรับการเปิด AEC ของกรมการขนส่งทางบก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมได้มีการจัดเตรียมความพร้อมพื้นที่จอดรถและห้องทำงานสำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ โดยคาดว่า พล.อ.อ.ประจิน จะเข้าปฏิบัติงานที่กระทรวงฯ เป็นวันแรกในวันที่ 4 กันยายนนี้