คสช.เร่งแผนจัดหารถเมล์ NGV ใหม่ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในปีงบ 58 พร้อมกันนี้ได้เห็นชอบให้ ขสมก.กู้เงิน 4,401 ลบ.จ่ายหนี้น้ำมันและเหมาซ่อม “ปลัดคมนาคม” เตรียมหารือ คตร. 25 ก.ค.นี้ ทบทวนรูปแบบวิธีการจัดหาที่โปร่งใส และรวดเร็ว ก่อนเดินหน้าตาม “นโยบาย คสช.” เผยวันที่ 23 ก.ค. สผ.ชุดใหญ่ประชุม คาดอนุมัติรถไฟทางคู่ 2 สาย ลุ้นเปิดประมูลได้ปีนี้
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันนี้ (22 ก.ค.) ได้หารือถึงโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาทขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยหลักการ คสช.ต้องการให้จัดหารถเมล์ใหม่มาให้บริการแก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด แต่การจัดหานั้นจะต้องมีความโปร่งใสและคุ้มค่า โดยเร่งรัดการจัดหาแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2558 โดยในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้กระทรวงคมนาคมจะหารือร่วมกับคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เพื่อพิจารณาถึงการจัดหารถเมล์ NGV ใหม่ว่าจะใช้รูปแบบใดที่เหมาะสม โปร่งใส และรวดเร็ว ตามนโยบาย คสช. ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้วิธีซื้อตามเดิมหรือจะเปลี่ยนเป็นซื้อ ต้องรอผลการหารือกับ คตร.ก่อน
ส่วนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย ระยะเวลาดำเนินการปี 2558-2565 ของกระทรวงคมนาคม ที่ประชุม คสช.ยังไม่ได้มีการพิจารณาแผน เนื่องจากการหารือวาระสุดท้ายเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านพลังงานใช้เวลานานมาก จึงไม่สามารถพิจารณาแผนยุทธศาสตร์ที่ถูกบรรจุไว้เป็นวาระอื่นๆ ได้ทัน ซึ่งที่ประชุม คสช.ได้แจ้งแก่กระทรวงคมนาคมว่าในการประชุม คสช.ชุดใหญ่ครั้งถัดไปวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ จะบรรจุเตรียมไว้ในวาระพิจารณาแทนวาระอื่นๆ เช่นครั้งนี้
ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ได้กำชับให้ ขสมก.เร่งรัดการจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) ให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2558 เพื่อให้ ขสมก.สามารถนำรถใหม่มาให้บริการประชาชนได้โดยเร็ว โดยให้ คตร.ตรวจสอบความโปร่งใสและความคุ้มค่า พร้อมทั้งพิจารณาความพร้อมของก๊าซ NGV เพื่อรองรับการให้บริการดังกล่าว และจัดทำแผนเส้นทางเดินรถให้เกิดรายได้ที่เหมาะสมระหว่างรถเมล์ ขสมก.กับรถร่วมบริการ ขสมก.
พร้อมกันนี้ ได้มีมติเห็นชอบให้ ขสมก.กู้เงินเพื่อนำไปชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าเหมาซ่อมสำหรับปีงบประมาณ 2558 จำนวน 4,401 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 2,870 ล้านบาท และค่าเหมาซ่อม 1,531 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน และให้เกิดการประหยัดดอกเบี้ยจ่ายกรณีผิดนัดชำระหนี้ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข รายละเอียดต่างๆ
นางสร้อยทิพย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สผ.) เป็นครั้งแรก ซึ่งจะมีวาระการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการของกระทรวงคมนาคมด้วย เช่น โครงการรถไฟทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 2 เส้นทาง คือ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท รวมถึงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) เส้นทางพัทยา-มาบตาพุด และถนน สายกบินทร์บุรี-ปักธงชัย ในเส้นทาง 304 ของกรมทางหลวง (ทล.)