“ปลัดคมนาคม” มอบนโยบายบอร์ด ร.ฟ.ท.ชุดใหม่ พร้อมขอความร่วมมือผู้บริหารและพนักงานร่วมกันแก้ปัญหาองค์กรเรียกความเชื่อมั่นคืน เผย คสช.สั่งทำแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.แก้ปัญหาทุกมิติ ให้การบ้านบอร์ดเร่งรัดโครงการล่าช้า ทั้งรถไฟทางคู่ ซื้อหัวรถจักร แก้ปัญหารั่วไหล
วันนี้ (16 ก.ค.) เวลา 13.00 น. นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ชุดใหม่ก่อนที่จะมีการประชุมนัดแรกหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยมีฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.เข้าร่วมรับฟังนโยบายด้วย โดยนางสร้อยทิพย์กล่าวว่า เรื่องแรกเป็นนโยบายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการให้ฟื้นฟู ร.ฟ.ท.ในทุกมิติ ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน องค์กร การเงิน ซึ่งจะต้องเร่งทำแผนฟื้นฟูใหม่เพื่อให้พร้อมนำเสนอต่อ คสช. ซึ่งจะมีเวลาอีก 15 วันหลัง คสช.มีการตั้งคณะอนุกรรมการฯฟื้นฟูกิจการของรัฐวิสาหกิจขึ้นมา 2. ต้องเร่งเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนและเร่งสร้างขวัญกำลังใจพนักงาน โดยมาตรการในการทำงานที่มีอยู่แล้วจะต้องเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจากเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงอายุ 13 ปีจะต้องมีกระบวนการสอบสวนอย่างจริงจัง หาว่าบกพร่องตรงจุดไหนเพื่อนำไปสู่กระบวนการแก้ไข
3. เร่งรัดโครงการต่างๆ ซึ่งแผนลงทุนวงเงิน 1.7 แสนล้านบาท ดำเนินงานตั้งแต่ปี 2553-2557 นั้น ถึงวันนี้ทำได้เพียงรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง และซื้อหัวรถจักร 20 คันเท่านั้น โครงการอื่นๆ ไม่มีความคืบหน้า ทั้งรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และซื้อหัวรถจักร 50 คัน, ปรับปรุงหัวจักร 56 คัน ซึ่งล่าสุด คสช.ให้ปรับเป็นซื้อเพราะคุ้มค่ากว่า, จัดหาแคร่ 308 คัน, จัดหาโบกี้โดยสาร 115 คัน ซึ่งกรณีที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตั้งข้อสังเกตในแต่ละโครงการนั้น ร.ฟ.ท.ต้องเร่งชี้แจงให้ข้อมูลเพื่อให้โครงการเดินหน้า เนื่องจากการจัดหารถจักรและรถไฟทางคู่ รวมถึงการจัดหาระบบอาณัติสัญญาณนั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญของ ร.ฟ.ท.ในการให้บริการที่มีคุณภาพ
4. แก้ปัญหารั่วไหล โดยเฉพาะรายได้จากทรัพย์สินที่ดินทั่วประเทศ จะต้องมีการติดตามสัญญาที่ค้างชำระ หรือสัญญาที่ไม่เคยมีการปรับค่าเช่าให้เหมาะสมหรือที่ดินที่ ไม่เคยมีการจัดเก็บค่าเช่า เพื่อหารายได้มาพัฒนาบริการ และใช้ทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์ที่สุด โดยไม่ต้องสร้างโครงการใหม่ๆ 5. ปัญหาด้านบุคลากร ต้องสำรวจความต้องการพนักงานในแต่ละส่วนงานและเสนอไว้ในแผนฟื้นฟู รวมถึงสร้างตัวชี้วัดการทำงาน เพื่อให้การบริหารในแต่ละหน่วยธุรกิจ (Business Unit) มีประสิทธิภาพมากขึ้น
6. แก้ปัญหาภาพลักษณ์องค์กร ในเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด ทั้งบนขบวนรถ สถานี ตู้สเบียง ห้องน้ำ 7. แก้ปัญหากระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อไม่ให้โครงการสะดุด ล่าช้าเหมือนที่ผ่านมา
“บอร์ด ร.ฟ.ท.ชุดนี้มีผู้แทนจากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านลอจิสติกส์ ระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง และผู้แทนจาก สนข.ที่ประสานกับกระทรวงคมนาคมได้ ฝากประธานบอร์ดคนใหม่ช่วยพัฒนาพนักงานในทุกระดับ สร้างขวัญกำลังใจ สร้างแรงจูงใจในการทำงานเพื่อปรับปรุงฟื้นฟูการรถไฟฯ ให้เป็นไปตามที่ คสช.และกระทรวงคมนาคมคาดหวัง” นางสร้อยทิพย์กล่าว
ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.กล่าวว่า การทำงานจะสำเร็จได้บอร์ดต้องได้รับความร่วมมือจากฝ่ายบริหารและพนักงานทุกคน ซึ่งที่ผ่านมาเห็นว่ามีการละเลยและหย่อนยานไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่มี ส่วนปัญหาเร่งด่วนนั้นจะต้องปรับปรุงเรื่องความละอาด และด้านการบริการ ซึ่งจากที่ได้ลงสำรวจแล้วเห็นว่ามีปัญหาจริง