“คมนาคม” ไล่บี้รัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนปี 57 หลังไล่เช็กพบยังล่าช้ากว่าเป้าหมาย เผย ร.ฟ.ท.สุดอืด เหตุติดปมปรับแบบสถานีบางซื่อรถไฟสายสีแดงไม่จบ รอระดับนโยบายช่วยแก้ปัญหา ส่วน ทอท.เจอปัญหาก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2, ขยายดอนเมืองและภูเก็ตล่าช้า ฉุดยอดเบิกจ่ายต่ำเป้า “สมชัย” มั่นใจไตรมาสสุดท้ายยังเร่งสปีดทัน เผยประธาน ICAO เข้าพบ ยันเข้าใจสถานการณ์ในไทยไม่กระทบข้อตกลงใดๆ
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเร่งรัดติดตามการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมปี 2557 วันนี้ (29 พ.ค.) ว่า ในภาพรวมการเบิกจ่ายยังถือว่าล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดเป้าหมายว่าต้องเบิกจ่ายให้ได้ที่เฉลี่ย 56% โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ทำเป็นโครงการได้น้อยที่สุด 6,586.079 ล้านบาท จากที่ได้รับอนุมัติไว้ 23,696.105 ล้านบาท ซึ่งปัญหาหลักเกิดจากการดำเนินโครงการรถไฟสายสีแดงที่ยังติดปัญหาการปรับแบบสถานีกลางบางซื่อที่คงเหลือวงเงินเบิกจ่ายประมาณ 10,051 ล้านบาท โดยจะต้องเสนอให้ระดับนโยบายพิจารณาอนุมัติต่อไป พร้อมกันนี้ยังสามารถเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อขอปรับแผนและวงเงินการลงทุนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้จ่ายจริงได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีงบลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงิน 3,321 ล้านบาท การจัดหารถโบกี้ 308 คัน วงเงิน 106 ล้านบาท การจัดหารถจักรดีเซล 50 คัน วงเงิน 885 ล้านบาท การปรับปรุงรถจักร (Refurbish) 56 คัน วงเงิน 342 ล้านบาท การจัดหารถโดยสาร 115 คัน วงเงิน 672 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ ร.ฟ.ท.ยืนยันว่าสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายได้ทันภายในเดือนกันยายน 2557
ส่วนบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มีปัญหาเบิกจ่ายล่าช้าเช่นกัน โดยได้รับอนุมัติงบลงทุนที่ 17,678 ล้านบาท สามารถเบิกจ่ายได้เพียง 16% เนื่องจากการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนเป็น 60 ล้านคนต่อปี, โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการรองรับผู้โดยสารจาก 18.5 ล้านคนเป็น 30 ล้านคนต่อปี และโครงการขยายท่าอากาศยานภูเก็ต ขยายขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคนต่อปีเป็น 12.5 ล้านคนต่อปี การก่อสร้างยังมีความล่าช้ากว่าแผน ซึ่ง ทอท.ยืนยันว่าจะเร่งรัดในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้าย
สำหรับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รับอนุมัติที่ 25,182 ล้านบาท เบิกจ่ายได้ 11,174 ล้านบาท หรือ 44% แต่ได้หารือกับ สศช.เพื่อขอปรับแผนเบิกจ่ายใหม่ เหลือวงเงินอนุมัติที่ 21,445 ล้านบาท ทำให้คิดยอดการเบิกจ่ายขยับเป็น 52% ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่างบลงทุนในส่วนของรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่มาจากรายได้ของตัวเองหรือการกู้เงินมาลงทุน ซึ่งงบลงทุนสามารถเสนอขอปรับแผนลดวงเงินการเบิกจ่ายในแต่ละงวดได้ ไม่เหมือนงบประมาณที่จัดสรรให้หน่วยงานราชการ
และในวันนี้ (29 พ.ค.) Dr. Olumuyiwa Benard Aliu ประธานคณะมนตรีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) พร้อมกับ Mr. Arun Mishra ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ICAO ได้เข้าพบนายสมชัย เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งนายสมชัยกล่าวว่า ทาง ICAO มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ในประเทศไทยเป็นอย่างดี ทั้งนี้ได้ขอให้ประธาน ICAO ช่วยประสานทำความเข้าใจกับประเทศสมาชิกด้วยว่าประเทศไทยยังมีความปลอดภัย สามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามปกติ ส่วน กติกา กฎเกณฑ์ความร่วมมือต่างๆ กับ ICAO ยังเป็นไปด้วยดี ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
