ขสมก.ยื้อสเปกรถร้อน NGV แชสซีส์สูงบันได 2 ขั้น แถยอมปรับTOR ครั้งที่ 6 เปิดให้ยื่นรถร้อนได้ทั้งแบบ Low Floor และแบบบันได 2 ขั้นแต่ต้องติดลิฟต์ยกรถ Wheel Chair แล้วแข่งกันที่ราคา วงในชี้ยังไง Low Floor ราคาก็สูงกว่ายิ่งล็อกสเปกกว่าเดิม “นเรศ” ยันคนพิการใช้ได้ทั้ง 3,183 คัน ขณะที่ทดสอบรถ Low Floor ไปไม่รอด เหตุแบกน้ำหนักเกิน รถพังตั้งแต่ยังไม่พ้นอู่บางเขน
วันนี้ (29 ม.ค.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้นำรถโดยสารประจำทางแบบชานต่ำ (Low Floor) ที่มีทางลาดสำหรับรถ Wheel Chair และรถแบบมาตรฐานบันได 2 ขั้นที่ติดตั้งลิฟต์ยกรถ Wheel Chair มาวิ่งทดสอบในสภาพถนนจริงก่อนที่จะมีการปรับปรุงร่าง TOR โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงเป็นก๊าซธรรมชาติ (NGV) จํานวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2ล้านบาท ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยมีคนพิการเข้าร่วมทดสอบ เริ่มจากเขตการเดินรถที่ 1 อู่บางเขนไปยังบริเวณสะพานหน้า มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, บริเวณสะพานจุดตัดถนนประชาชื่น เข้าถนนสามัคคี และจุดอื่นๆ ที่ต้องการ แต่หลังจากรถออกจากอู่บางเขนไปถึงบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 รถทดสอบแบบ Low Floor เกิดถุงลมแตกเนื่องจากบรรทุกน้ำหนักเกินจนต้องหยุดการทดสอบในที่สุด
นายนเรศ บุญเปี่ยม รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก.และในฐานะประธานคณะกรรมการร่าง TOR รถเมล์ NGV เปิดเผยว่า ในการประกาศ TOR ครั้งที่ 6 นั้น จะไม่เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของรถปรับอากาศจำนวน 1,524 คัน โดยยังเป็นรถแบบชานต่ำ (Low Floor) ไม่มีบันได (No step Bus) ติดตั้งสะพานทางลาด ส่วนรถธรรมดา (รถร้อน) จำนวน 1,659 คัน จะปรับ TOR ใหม่ โดยเปิดกว้างให้ผู้เสนอสามารถยื่นได้ทั้งรถแบบชานต่ำ (Low Floor) ที่มีทางลาด หรือรถแบบมาตรฐาน (บันได 2 ขั้น) ติดตั้งลิฟต์ยก ซึ่งจะทำให้คนพิการสามารถใช้บริการได้ทั้งหมด 3,138 คัน โดยคณะกรรมการร่าง TOR จะประชุมภายในสัปดาห์นี้เพื่อสรุปรายละเอียด และเตรียมประกาศร่าง TOR ลงเว็บไซต์ครั้งที่ 6 และครั้งที่ 7 และคาดว่าจะประกาศขายซองประกวดราคาได้ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยรถล็อตแรกจำนวน 250 คันจะเข้ามาช่วงปลายปี 2557 โดยในระหว่างนี้ ขสมก.จะทำการจัดหาระบบ CCTV ติดตั้งด้านหน้าและหลังตัวรถ ระบบ GPS และ E-Ticket โดยใช้งบประจำปีควบคู่ไปเพื่อติดตั้งให้ทันรถล็อตแรกที่เข้ามา
ทั้งนี้ หลักการจัดซื้อรถเมล์ NGV คือจะต้องมีรถวิ่งให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยรถปรับอากาศจะวิ่งในเส้นทางสายหลักในเมือง ส่วนรถร้อนจะวิ่งในเส้นทางสายรองพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ที่รถปรับอากาศแบบ Low Floor วิ่งไม่ได้ เพราะจะติดสะพานข้ามคลองซึ่งได้ทดสอบแล้ว เช่น สะพานข้ามคลองถนนในเมืองทองธานี, ถนนสามัคคี, ประชาชื่น, สวนสยาม, ทุ่งครุ สะพานเกษะโกมล เป็นต้น จึงต้องให้มีรถร้อนแบบมาตรฐาน ซึ่งผู้เสนอราคาต้องพิจารณาเองว่าจะเสนอรถแบบไหนที่จะคุ้มทุน เพราะกรอบที่ 3.8 ล้านบาทต่อคันประมูลวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์จะเคาะราคาลงไปเรื่อยๆ
“กก. TOR พิจารณาในแง่ที่มีการเรียกร้องต้องการรถ Low Floor แต่อีกด้านอยากเสนอรถมาตรฐานจึงกำหนด 2 แบบเพื่อไม่ให้ตัดสิทธิ์กัน เพราะถ้าเสนอรถเข้ามาแล้ววิ่งทดสอบไม่ได้ก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี กรอบราคารถร้อนที่ 3.8 ล้านบาท/คัน และรถแอร์ 4.5 ล้านบาท/คัน บีบทุกอย่างทำให้ต้องกำหนดคุณลักษณะของรถแบบนี้ ซึ่งก็ไม่มั่นใจว่าเปิดประมูลแล้วจะมีผู้เสนอหรือไม่ และถ้ามีราคาที่ได้อาจจะสูงกว่ากรอบเพราะจากการสอบถามแล้วไม่มีผู้ผลิตรายไหนทำได้ต่ำกว่ากรอบ ซึ่งหากราคาสูงเกินต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรับราคาใหม่” นายนเรศกล่าว
ด้านตัวแทนคนพิการที่ร่วมทดสอบรถในครั้งนี้ยืนยันว่าคนพิการต้องการใช้บริการรถเมล์ NGV ทั้วรถร้อนและรถแอร์ ซึ่งกรณีที่ ขสมก.ใช้คุณสมบัติรถร้อนเหมือนเดิมที่เป็นรถสูงบันได 2 ขั้นแต่ให้ติดตั้งลิฟต์ยกเข้าไปนั้น จะมีความยุ่งยากในการใช้งานและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่เรียกร้องรถ Low Floor หรือ Semi Low Floor ที่ให้ความสะดวกแก่คนชรา เด็ก ผู้หญิง ที่ก้าวขึ้นไม่ไหวด้วยนอกจากคนพิการ
รายงานข่าวแจ้งว่า การปรับ TOR รถร้อนโดยเปิดกว้างทั้งแบบ Low Floor และแบบบันได2 ขั้น ยิ่งเป็นการล็อกสเปกให้กับกลุ่มผลประโยชน์เดิมที่ใช้แชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงเป็นรถโดยสาร เนื่องจากต้นทุนรถต่ำกว่ารถ Low Floor ซึ่งจะไม่มีผู้เสนอรถร้อนแบบ Low Floor เข้ามาแข่งขันแน่
