ASTVผู้จัดการรายวัน - บาฟส์ตั้งเป้าปี 57 ปริมาณให้บริการน้ำมันโตขึ้นอีก 5-6% ดันรายได้ขยายตัว 6% จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้โตขึ้นกว่า 11% เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีรับรู้รายการพิเศษเข้ามาดันปี 56 กำไรทุบสถิติสูงสุด เผยปีหน้าตั้งงบลงทุนไว้ 1,343 ล้านบาท พร้อมทั้งขยายไลน์ธุรกิจสร้างคลังน้ำมันดีเซลให้เช่า รับนโยบายเพิ่มสำรองน้ำมันจาก 5% เป็น 6%
นายฉัตรธัย พันธัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่ารายได้เติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 11% จากปีก่อน หากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองไม่รุนแรง โดยปริมาณให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานในปีนี้โตขึ้น 8% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้เพียง 7% หลังจากมีจำนวนเที่ยวบินในประเทศของสายการบินต้นทุนต่ำเพิ่มมากขึ้น ทำให้กำไรสุทธิทั้งปีเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากรับรู้รายการพิเศษจากการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 117 ล้านบาท และกำไรจากการรวมธุรกิจจำนวน 76.1 ล้านบาท
ในปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าปริมาณการเติมน้ำมันเพิ่มขึ้น 5-6% จากปีนี้อยู่ที่ 4,892 ล้านลิตรเป็น 5,175 ล้านลิตร ทำให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตขึ้น 6% จากปีนี้ ซึ่งปริมาณการให้บริการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมาจากสายการบินใหม่เข้ามาเพิ่มส่วนใหญ่เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2557 จะไม่ได้โตแบบก้าวกระโดดเพราะไม่มีรายการพิเศษ แต่ก็เติบโตจากธุรกิจหลักอยู่
สำหรับแผนการลงทุนในปี 2557 บาฟส์และบริษัทย่อยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,343 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนขายระบบท่อส่งน้ำมันในสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 ของบริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) จำนวน 710 ล้านบาท การก่อสร้างถังเก็บน้ำมันของบาฟส์ 1 ถังที่สุวรรณภูมิ วงเงิน 355 ล้านบาท และสร้างคลังเก็บน้ำมันดีเซลจำนวน 3 ถังที่ดอนเมือง ของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด เงินลงทุน 230 ล้านบาท ซื้อรถเติมน้ำมันเพิ่มอีก 2 คัน 32 ล้านบาท และปรับปรุงรถเติมน้ำมันอากาศยานวงเงิน 16 ล้านบาท โดยคาร์โกจะเริ่มวางท่อฯ ในไตรมาส 2/2557 แล้วเสร็จในไตรมาส 3/2558 ก่อนคืนพื้นที่ให้ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ดำเนินการขยายสนามบินเฟส 2 ต่อไป
แหล่งเงินที่ใช้ในการลงทุนนั้นจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบาฟส์และบางส่วนกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/2556 บริษัทฯ มีภาระชำระหนี้คืนอีก 101 ล้านบาท และปีถัดไปจะเพิ่มขึ้นเป็น 461 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.65 เท่า
ส่วนความคืบหน้าการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) กับบริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด นั้นคาดว่าจะมีการชำระบัญชีบริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ทเสร็จภายในปีนี้เพื่อลดภาระทางภาษี ทำให้การดำเนินงานในแง่ธุรกิจครบวงจรมากขึ้น รวมทั้งบาฟส์มีนโยบายให้ FPT บริหารจัดการทำธุรกิจใหม่ อาทิ การสร้างถังเก็บน้ำมันดีเซล เพื่อรองรับความต้องการเช่าถังน้ำมันของบริษัทน้ำมันต่างๆ ที่มีภาระต้องสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้นจากนโยบายรัฐที่ให้เพิ่มสำรองน้ำมันจาก 5% เป็น 6% ซึ่งนอกจากจะได้ค่าบริการจากการเช่าถังน้ำมันแล้วยังมีรายได้จากการใช้ท่อน้ำมันด้วย
ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้ 2,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.7% และมีกำไรสุทธิ 840.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.4%