xs
xsm
sm
md
lg

“PHOL” คาดกำไรปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20% เน้นสินค้ากลุ่มมาร์จิ้นสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบุญชัย  สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ. ผลธัญญะ หรือ PHOL
“ผลธัญญะ” คาดกำไรปีนี้โต 20% เน้นกลุ่มสินค้ามาร์จิ้นสูง เผยเตรียมซื้อกิจการ บริษัทผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย เตรียมลุยตลาด AEC วางกรอบ MOU ผลิตน้ำในเขตภาคเหนือไตรมาส4

นายบุญชัย  สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ.ผลธัญญะ หรือ PHOL กล่ววว่า  บริษัทฯ คาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 20% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 44.73 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้เน้นขายสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดแก๊ส และธุรกิจบำบัดน้ำ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีการปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลง  ซึ่งปรับลดเป้ารายได้ลงจากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 20% เหลือเพียง 15% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท          

ส่วนสาเหตุที่บริษัทปรับลดเป้าลงมานั้น เนื่องจากบริษัทพลาดการเข้าประมูลงานถุงมืออนามัยที่ใช้ในโรงพยาบาลในรอบที่ผ่านมา  เนื่องจากไม่สามารถกำหนดรูปแบบ และราคาถุงมือแบรนด์ใหม่เข้าไปนำเสนอได้ทันตามกำหนดเวลา โดยสินค้าเดิมมีปัญหาในเรื่องคุณภาพสินค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมที่จะเข้าประมูลใหม่อีกครั้งไตรมาส 4 ปีนี้ อีกทั้งธุรกิจหลักของบริษัทฯ เน้นในการขายสินค้าให้แก่อุตสาหกรรมรถยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก และไทยมีการชะลอตัว ทำให้ยอดคำสั่งซื้อสินค้าลดลง ประกอบกับผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นั้น บางส่วนได้ย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศเพราะกังวลต่อวิกฤตน้ำท่วม       

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ระยะยาว 5 ปีตั้งแต่ปี 2556-2560 อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นธุรกิจหลักของบริษัท 1,500 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจน้ำ จากการขายอุปกรณ์ และสัมปทานผลิตน้ำประมาณ 500 ล้านบาท และจากการควบรวมกิจการกับบริษัทใหม่อีกประมาณ 500  ล้านบาท โดยเบื้องต้นตั้งงบลงทุนไว้ปีละประมาณ 200 ล้านบาท     

“ธุรกิจหลักในการขายอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย  อุปกรณ์ควบคุมสิ่งแวดล้อมนั้นจะมีการเติบโตตามอุตสาหกรรมต่างๆ ประมาณ 10-15% ต่อปี แต่หากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ก็จะมีผลกระทบต่อยอดขายได้ ซึ่งบริษัทพยายามหาธุรกิจที่สร้างรายได้มั่นคง คือ ธุรกิจน้ำ จากเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีความต้องใช้สูงจากเป็นสิ่งจำเป็น เชื่อว่าในช่วง 2-3 ปี สัดส่วนรายได้ธุรกิจน้ำจะเติบโตสูง 30-50% จากฐานที่เล็ก และบริษัทจะมีการซื้อกิจการบริษัทที่สามารถต่อยอดธุรกิจได้”

ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลเพื่อเข้าซื้อกิจการบริษัทในต่างประเทศ  ซึ่งประกอบธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยด้านอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายสินค้าไปในประเทศแถบลุ่มน้ำโขง หรือภูมิภาคอาเซียน  โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนขั้นต่ำ 200 ล้านบาท  

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคืบหน้าในการผลิตน้ำเพื่อใช้อุปโภคบริโภคในประเทศที่ได้พูดคุยไว้กับเขตเทศบาล ในภาคเหนือ 1 โครงการว่า  คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาได้ประมาณไตรมาส 4 ปีนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จได้ในกลางปี 2557 โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 50-60 ล้านบาท กำลังการผลิตน้ำ 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยมีอายุสัญญาสัมปทานประมาณ 15-20 ปี โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ ประมาณ 15 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับอีก 3-4  เขตเทศบาล ซึ่งหากโครงการแรกนี้ประสบผลสำเร็จ จะมีโอกาสในการเข้าไปรับงานในเขตเทศบาลอื่นๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น  ซึ่งในประเทศไทยมีเขตเทศบาลทั้งหมดประมาณ 7 พันแห่ง      

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการสัมปทานผลิตน้ำในประเทศพม่า ร่วมกับพันธมิตร 1 โครงการ ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าโครงการนี้ได้ หากมีความชัดเจนมากขึ้นก็จะมีการแจ้งให้ทราบในครั้งต่อไป  และบริษัทได้มีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายระบบบำบัดน้ำ และการจำหน่ายเครื่องกรองน้ำในครัวเรือนที่พม่า ชื่อบริษัท เอการ์ จำกัด ซึ่งเริ่มทำการตลาดแล้ว และมีมูลค่าการซื้อขายดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนการเปิดบริษัทย่อยในประเทศกัมพูชานั้น อยู่ในระหว่างการเจรจา คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ บริษัทฯมีความสนใจจะเข้าไปทำธุรกิจน้ำในประเทศลาว และประเทศเวียดนาม ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายที่จะสามารถเข้าไปทำธุรกิจได้เอง หรือร่วมกับพันธมิตรในประเทศนั้นๆ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนเฉลี่ยโครงการละ 50-60 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น