“ธ.กรุงศรีฯ” ประกาศแผนควบรวมกิจการ “ธ.โตเกียว-มิตซูบิชิ” เล็งออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 4.4 หมื่นล้าน ขายราคาหุ้นละ 39 บาท ยอมรับธนาคารทั้ง 2 แห่งได้บรรลุข้อตกลง VTO ในสัญญาซื้อขายกิจการ สินทรัพย์และหนี้สิน ตามหลักการแบงก์ชาติ 1 รูปแบบ
นางเจนิส แวน เอ็กเคอเรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ได้ประกาศแผนการเข้าซื้อหุ้นของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ผ่านการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ (VTO) เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ ธนาคารทั้ง 2 แห่งได้บรรลุข้อตกลงในสัญญาซื้อขายกิจการ สินทรัพย์และหนี้สินของ BTMU สาขากรุงเทพฯ แบบมีเงื่อนไข และแผนการควบรวม BTMU สาขากรุงเทพฯ เข้ากับธนาคารภายหลังจากการทำ VTO โดยยึดหลักการตามนโยบายสถาบันการเงิน 1 รูปแบบ ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ธนาคารได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้มีสัดส่วนของผู้ถือหุ้นต่างชาติได้มากกว่า 49% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
ทั้งนี้ หลังจากการทำ VTO เสร็จสิ้นแล้ว ธนาคารมีแผนการควบรวมโดยซื้อกิจการ สินทรัพย์และหนี้สินของ BTMU สาขากรุงเทพฯ และธนาคารจะชำระค่าตอบแทนการซื้อกิจการดังกล่าว โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคาร จำนวน 1,143,221,782 หุ้นแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่ BTMU ในราคาหุ้นละ 39 บาท คิดเป็นมูลค่าราว 4.4 หมื่นล้านบาท
การดำเนินการดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานด้านการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ผู้ถือหุ้นของธนาคาร และผลสำเร็จของเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งนี้ จำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะออก และราคาหุ้นของธนาคารอาจมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดว่าด้วยการปรับราคา โดยจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกให้ BTMU จะมีจำนวนสูงสุดไม่เกิน 1,500,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นมูลค่าราว 5.8 หมื่นล้านบาท ภายใต้สัญญาซื้อขายกิจการ สินทรัพย์ และหนี้สินของ BTMU สาขากรุงเทพฯ แบบมีเงื่อนไข ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนของธนาคารเพิ่มขึ้นจาก 60,741,437,470 บาท เป็น 75,741,437,470 บาท
ทั้งนี้ ธนาคาร BTMU สาขากรุงเทพฯ มีสินทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับสาขาของธนาคารต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจในไทย โดยมีสินทรัพย์รวมประมาณ 5.83 แสนล้านบาท และให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เป็นหลักมานานกว่า 50 ปี
สำหรับแผนการควบรวมกิจการดังกล่าวจะเริ่มต้นประมาณต้นปี 2557 ภายหลังจากเสร็จสิ้นการทำ VTO และจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ธนาคารสามารถให้บริการทางการเงินที่มีความหลากหลาย และครบวงจรแก่ลูกค้ากลุ่มต่างๆ ด้วยการผสานความเชี่ยวชาญของ BTMU ระดับโลกเข้ากับเครือข่ายสาขาของธนาคารในไทย
นอกจากนั้น ธนาคารยังได้พูดคุยกับ BTMU ถึงความร่วมมือในอนาคตในหลากหลายมิติเพื่อนำมาซึ่งประโยชน์จากการเป็นพันธมิตรเชิงยุทธ์ที่มุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำของธนาคารในไทย และในระดับภูมิภาค ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า โดยธนาคารได้แต่งตั้งให้ธนาคารดอยช์แบงก์เป็นที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับการทำ VTO ของ BTMU ในการเข้าซื้อหุ้นของธนาคาร รวมถึงการซื้อกิจการของ BTMU สาขากรุงเทพฯ
ก่อนหน้านี้ กลุ่มจีอี แคปปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น (GECIH) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ลงนามในข้อตกลงเสนอซื้อหุ้นสามัญที่ถืออยู่ จำนวน 1,538,365,000 หุ้น คิดเป็น 25.33% ของหุ้นที่จำหน่ายทั้งหมดให้แก่ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ในราคา 39 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่าราว 5.99 หมื่นล้านบาท