ยอดเกินดุลการค้าของเยอรมันในครึ่งปีแรกปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 8.5 พันล้านยูโร คิดเป็น 0.6% ของจีดีพี เป็นผลจากอัตราการว่างงานที่ลดลง ทำให้ยอดจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่จีดีพี Q2/2013 ขยายตัว 0.7% จากไตรมาสก่อนหน้า
นักเศรษฐศาสตร์ของดอยช์แบงก์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มที่ดีขึ้นสะท้อนจากตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการขยายตัวในภาคบริการในหลายประเทศ เช่น อิตาลี สเปน และไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนได้ผ่านพ้นภาวะถดถอยแล้ว
จีดีพี Q2/2013 ของอังกฤษ ขยายตัว 0.7% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวเพียง 0.3% เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากภาคธุรกิจก่อสร้างและการผลิต
อุปสงค์ปิโตรเลียมโดยรวมของสหรัฐเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากในเดือน ก.ค. เป็นช่วงฤดูร้อนและฤดูท่องเที่ยว ส่งผลให้ความต้องการเชื้อเพลิงปรับตัวเพิ่มขึ้น
มูดีส์ ประกาศทบทวนเครดิตของธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ 6 แห่ง โดยธนาคารที่มีสิทธิถูกลดเครดิตประกอบด้วยโกลด์แมน แซคส์, เจพี มอร์แกน เชส, มอร์แกน สแตนลีย์ และ เวลส์ ฟาร์โก ขณะที่ธนาคารอีก 2 แห่งคือ แบงก์ ออฟ อเมริกา และ ซิตี้กรุ๊ป ถูกประเมินเกี่ยวกับแนวโน้มความไม่แน่นอน เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะลดการให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินเหล่านี้
ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐเดือน ก.ค. ปรับตัวลดลง 3.4% สู่ระดับ 394,000 หลัง ลดลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยการจำนองที่สูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการซื้อบ้านปรับตัวสูงขึ้น และทำให้ผู้ที่สนใจซื้อบ้านชะลอการซื้อบ้านไป
ก.พาณิชย์จีน กำลังพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบการขายรถยนต์ เพื่อควบคุมการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการบริการด้านยานยนต์ หลังจากมีการร้องเรียนอย่างหนักในด้านการกำหนดราคาเกินจริง ซึ่งทำให้ราคารถยนต์จากต่างประเทศสูงเกินไป
รายได้ภาคครัวเรือนของเกาหลีใต้ใน Q2/2013 ขยายตัว 2.5% เพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของภาคครัวเรือนที่มีสมาชิกมากกว่า 2 คน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.04 ล้านวอน เป็นผลจากเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวได้ถึง1.1%
นายฮารุฮิโก คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) เปิดเผยว่า นโยบายผ่อนปรนด้านเงินตรานั้น ได้เริ่มส่งผลลัพธ์ที่เป็นบวกแล้ว โดยมีส่วนช่วยหนุนราคาหุ้นและทำให้ความเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยมีเสถียรภาพ และยังส่งผลบวกต่อการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน
รมว.นโยบายเศรษฐกิจและการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ จะตัดสินใจครั้งสุดท้ายในเรื่องการขึ้นภาษีการบริโภค ก่อนการประชุมเอเปคที่จะจัดขึ้นนวันที่ 7 ต.ค. เนื่องจากต้องรอดูผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่จะเปิดเผยในวันที่ 1 ต.ค. ก่อน โดยรัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนจะขึ้นภาษีการขายเป็น 8% จากระดับเดิมที่ 5% ในเดือน เม.ย. 57 และเพิ่มเป็น 10% ในเดือน ต.ค. 58 เพื่อหารายได้มาให้ครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคงทางสังคม หลังจากสัดส่วนประชากรสูงวันในประเทศมีจำนวนมากขึ้น
อินโดนีเซียประกาศมาตรการแก้ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย พร้อมกับคืนภาษีให้กับผู้ประกอบการที่ลงทุนในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ลดภาษีการนำเข้าน้ำมัน รวมถึงลดขั้นตอนการอนุญาตให้ลงทุนในประเทศ
อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์เดือน ก.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% จากเดือนก่อนหน้า เป็นผลมาจากการปรับตัวขึ้นของต้นทุนการขนส่งทางบกของภาคเอกชน เนื่องจากราคารถยนต์ได้ปรับตัวขึ้นภายหลังการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการเป็นเจ้าของในเดือน มิ.ย. และการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใหม่จากรถยนต์บางประเภทภายใต้โครงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการปลดปล่อยคาร์บอนของยานพาหนะ
นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปิดเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง โดยรัฐบาลจะเร่งการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐให้เร็วยิ่งขึ้น พร้องทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในเรื่องการจับจ่ายใช้สอย เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีกลับมาฟื้นตัว รวมถึงจะหารือกับภาคเอกชนเป็นรายอุตสาหกรรมและภาคการส่งออก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวอีกด้วย
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
SET Index ปิดที่ 1,338.13 จุด ลดลง -13.68 จุด หรือ -1.01 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 46,023.02 ล้านบาท ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดครึ่งวันเช้า ก่อนจะปรับตัวลดลงหนักในช่วงบ่าย จากการเทขายของนักลงทุนที่ยังคงมีมุมมองเชิงลบจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในไตรมาส 2
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เปิดเผยว่า กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องเสียหาย ในทางตรงกันข้ามกลับกลายเป็นผลดีที่ช่วยลดภาระเรื่องต้นทุนในการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทของ ธปท. และยังเชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยไม่ได้อยู่ในภาวะถดถอยตามที่เป็นข่าว เพราะยังมีอัตราการเจริญเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีปัญหาเรื่องเงินบาทแข็งค่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก ขณะที่เศรษฐกิจด้านอื่นๆ ยังเป็นไปได้ดี โดยในช่วงไตรมาสที่ 3-4 คาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวได้ดีจากปัจจัยเรื่องการใช้จ่ายภาครัฐ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.02% ถึง 0.00%มูลค่าการซื้อขายรวม 76,521 ล้านบาท สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูล