ขสมก.เปิดห้องชี้แจงร่างทีโออาร์รถเมล์เอ็นจีวีวันนี้ “พฤณท์” มั่นใจเคลียร์แล้วทุกข้อสงสัยความเห็นไม่มีอะไรใหม่ แจงคนพิการใช้ได้เฉพาะรถแอร์เหมาะสม เทียบสัดส่วนมีรถ 50% ให้บริการขณะที่คนพิการมีแค่ 1% ของผู้โดยสารทั้งหมด โต้ ป.ป.ช.แยกประมูลทีละสัญญา ส่อฮั้วมากกว่าและผิดระเบียบอี-ออกชัน ด้านตัวแทนผู้พิการโวย ขสมก.ไม่จริงใจแจ้งล่วงหน้า 1 วันเร่งรีบ ตัดตอนเสียงค้านยิ่งไม่โปร่งใส จ่อรวมตัวประท้วงอีก
พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ คณะกรรมการจัดทำร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ที่มีนายนเรศ บุญเปี่ยม รองผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นประธาน จะแถลงชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่อง TOR รถเมล์ NGV หลังจากที่ได้ทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นตามขั้นตอนการประกวดราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) มาแล้ว 5 ครั้ง โดยจะไม่มีการเปิดประชาพิจารณ์เพิ่มเติม เนื่องจากความเห็นล่าสุด 13 รายเป็นเรื่องเดิมที่ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้ ผอ.ขสมก.จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคาไม่เกิน 7 คน และคาดว่าจะสามารถเปิดขายเอกสารประกวดราคาได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ และให้ผู้ยื่นประมูลนำรถมาทดสอบก่อน 10 วันตามเงื่อนไข จากนั้นจะเปิดเคาะราคาอี-ออกชัน และทยอยรับมอบรถล็อตแรก 250 คันภายในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2557
ทั้งนี้ ในประเด็นที่คนพิการเสนอให้จัดซื้อรถร้อนที่มีทางลาดสำหรับผู้พิการที่ใช้รถเข็นขึ้น-ลงได้อย่างสะดวกด้วยนั้น เรื่องนี้ยืนยันว่าคนพิการจะสามารถใช้บริการรถเมล์ใหม่ได้อย่างสะดวกและทั่วถึงแน่นอน แม้จะใช้บริการได้เฉพาะรถปรับอากาศเท่านั้น ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีคนพิการทางขาประมาณ 40,000 คน คิดเป็นสัดส่วนของคนปกติที่ใช้บริการรถเมล์ที่ 4 ล้านคน ประมาณ 1% การกำหนดให้ซื้อรถพื้นต่ำเฉพาะรถปรับอากาศ 1,524 คันเท่ากับคนพิการได้ใช้รถถึง 50% ของรถทั้งหมด 3,183 คัน ถือว่าเหมาะสม นอกจากนี้ หากจัดซื้อรถร้อนที่คนพิการใช้ได้ด้วยนั้นจะเกินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนค่าโดยสารนั้นจะพิจารณากำหนดในอัตราพิเศษไม่เท่ากับคนปกติแน่นอน
ส่วนความเห็นของคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดศึกษาเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน ที่ระบุว่า ขสมก.ควรเปิดประมูลทีละสัญญาจากทั้งหมด 8 สัญญา ซึ่งเรื่องนี้ ขสมก.ได้สอบถามไปยังกรมบัญชีกลางซึ่งเป็นผู้ออกระเบียบการประมูลแบบอี-ออกชันแล้ว ว่าไม่สามารถทำตามที่ ป.ป.ช.ต้องการได้เพราะผิดกฎหมาย และจะทำให้ราคาแต่ละสัญญาไม่เท่ากัน ในขณะที่ TOR กำหนดรถสเปกเดียวกันแต่ราคาที่ออกมาไม่เท่ากัน เสี่ยงต่อการถูกร้องเรียนว่าเอื้อประโยชน์แก่รายใดรายหนึ่ง กรรมการประมูลจะถูกมองว่าสมรู้ร่วมคิดกับเอกชนได้ ที่สำคัญ ขสมก.ได้อนุมัติให้จัดซื้อรถทั้งหมดในคราวเดียว การเปิดราคาพร้อมกันทุกสัญญาจะป้องกันการฮั้วประมูลได้อีกด้วย
“ผมมั่นใจว่าการจัดซื้อรถเมล์ NGV ครั้งนี้ของ ขสมก.ชี้แจงข้อสงสัยได้หมดทุกประเด็น ทุกความเห็น ยืนยันว่าทำตามที่ ป.ป.ช.แนะนำไม่ได้ เพราะประมูลแบบอี-ออกชันต้องเปิดราคาพร้อมกันทั้ง 8 สัญญา ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาร้องเรียนเรื่องฮั้วประมูล และหากสัญญาหลังๆ เกิดตัดราคากันจะมีปัญหาได้ รถที่ไม่ได้คุณภาพตามที่ต้องการถือว่าโครงการล้มเหลว รัฐและประชาชนเสียหาย” พล.อ.พฤณท์กล่าว
นายโอภาส เพชรมุณี ผอ.ขสมก.กล่าวว่า จากที่ตัวแทนผู้พิการประมาณ 50 คนเรียกร้องให้ ขสมก.จัดซื้อรถเมล์ NGV เป็นรถพื้นต่ำที่มีทางลาดสำหรับรถเข็น (wheel chairs) สามารถขึ้นใช้บริการได้ทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศนั้น ขสมก.ได้กำหนดจัดประชุมเพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับร่าง TOR จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คัน พร้อมชี้แจงข้อเสนอแนะต่างๆ ต่อผู้ที่มีความเห็นที่แตกต่างในวันที่ 31 ตุลาคม โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมชั้น 5 ขสมก. ในเวลา 14.00 น. ทั้งนายไพโรจน์ วงศ์วิภานันน์ ประธานคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ชุดศึกษาเฝ้าระวัง โครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV ตัวแทนผู้พิการ รวมถึงเอกชนที่ต้องการเข้าร่วมประมูลโครงการ เพื่อชี้แจงตอบคำถามข้อข้องใจทั้งหมดก่อนเดินหน้าโครงการต่อไป
ด้านนางสาวอาภาณี มิตรทอง ตัวแทนผู้พิการ ผู้ริเริ่มการรณรงค์แคมเปญ change but for all เปิดเผยว่า ตนได้เปิดล่ารายชื่อเรียกร้องให้ ขสมก.จัดซื้อรถเมล์ใหม่ทุกคันเป็นรถพื้นต่ำผ่านเว็บไซต์ change.org ขณะนี้มีผู้เข้าลงชื่อกว่า 8,000 ราย เกือบถึง 9,000 รายแล้ว ส่วนการที่ ขสมก.จะชี้แจงร่าง TOR ในวันที่ 31 ตุลาคมนั้นเพิ่งจะทราบ รู้สึกตกใจ เพราะเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผู้พิการมาเรียกร้องที่สำนักงานใหญ่ ขสมก.นั้น นายโอภาสได้ประกาศว่าจะเปิดทำประชาพิจารณ์โครงการอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้เพื่อรับฟังความเห็นทั้งหมดมาพิจารณาประกอบโครงการ ซึ่งตามหลักของการทำประชาพิจารณ์จะต้องเชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากกว่า 100 คน ต้องเปิดเวทีและต้องประกาศแจ้งสาธารณชนล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เพื่อให้คนเตรียมพร้อมมาร่วมงาน แต่ ขสมก.กลับทำอะไรกระชั้นชิดแบบนี้ แจ้งล่วงหน้าเพียง 1 วัน แถมยังจัดที่ ขสมก.ซึ่งมีสถานที่จำกัด หากพวกตนไปร่วมงานเป็นหลัก 100 คนจะมีที่รองรับหรือไม่ ทำเหมือนไม่อยากให้มีคนไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทำแบบนี้ยิ่งแสดงถึงความไม่โปร่งใส แสดงออกว่าไม่จริงใจกับผู้พิการ อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้พวกตนจะรวบรวมคนไปที่ ขสมก.เพื่อล้มการจัดประชุมดังกล่าว ให้ ขสมก.เปิดเวทีใหม่ที่โปร่งใสและเปิดกว้างกว่านี้
