“ปลิว” เผยต้นทุนสัญญา 4 รถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่ม 15% หากเร่งงานเพื่อเปิดเดินรถได้เร็วกว่าแผน 3-6 เดือน จากที่สัญญากำหนด 40 เดือน ชี้ต้องระดมทั้งคนและเครื่องมือ ด้านผู้ว่าฯ รฟม.เผยเปิดเดินรถเร็วเท่าไรทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะเอกชนจะได้รับเงินค่างานเร็วขึ้น
วันนี้ (4 ก.ย.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ลงนามในสัญญาที่ 4 สัมปทานสำหรับการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้าการให้บริการการเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุงรักษา (สถานีคลองบางไผ่-สถานีเตาปูน) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ในรูปแบบ PPP-Gross Cost กับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL วงเงิน 82,625 ล้านบาท โดยนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม.เปิดเผยว่า ตามสัญญา BMCL จะส่งมอบงานและเริ่มให้บริการภายใน 40 เดือนนับจากลงนามสัญญา ซึ่งเชื่อว่าเอกชนยินดีที่จะเร่งรัดการก่อสร้างงานโยธาและงานระบบรถไฟฟ้าเพื่อให้สามารถเปิดเดินรถให้เร็วที่สุด อย่างช้าในปี 2560 ประมาณการจำนวนผู้โดยสารวันละ 200,000 คน โดยสามารถเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินจะทำให้ประชาชนตามเส้นทางจากจังหวัดนนทบุรี ถนนรัตนาธิเบศร์ ติวานนท์ เดินทางสู่กรุงเทพฯ ชั้นใน เชื่อมกับสายสีน้ำเงิน BTS และ Airport Link
“ยิ่งเปิดเดินรถได้เร็วเท่าไรทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์มากเท่านั้น โดยเฉพาะ BMCL เพราะสายสีม่วงซึ่งคาดว่าเมื่อเปิดเดินรถจะมีผู้โดยสารประมาณ 2 แสนคนต่อวันจะส่งต่อผู้โดยสารเข้าสายสีน้ำเงิน (ใต้ดิน) ของ BMCL ประมาณ 1 แสนคนต่อวัน จากปัจจุบันที่รถไฟฟ้าใต้ดินมีผู้โดยสารประมาณ 3 แสนคนต่อวัน นอกจากนี้ รฟม.จะจ่ายเงินงวดแรกให้ BMCL เมื่องานส่งมอบระยะที่ 1 คือการจัดหา ติดตั้ง ทดสอบระบบรถไฟฟ้า และทดลองเดินรถไฟฟ้า ซึ่งมีวงเงินรวม 13,243 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) โดยแบ่งจ่ายเป็นระยะเวลา 10 ปี ส่วนงานโยธาของทั้งโครงการสิ้นสุดเดือนสิงหาคม มีความคืบหน้า 72.16%” นายยงสิทธิ์กล่าว
ด้านนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการ BMCL กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทและ รฟม.ได้ร่วมกันวางแผนเตรียมพร้อมสำหรับการก่อสร้างเป็นอย่างดี โดยคาดว่าจะสามารถเร่งรัดงานจัดหาติดตั้งและทดสอบระบบให้แล้วเสร็จก่อนกำหนด 40 เดือนได้ประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งยอมรับว่าจะทำให้ต้นทุนในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นประมาณ 15% หรือประมาณเกือบ 2,000 ล้านบาท จากวงเงินสัญญางานระยะที่ 1 จัดหาและติดตั้งรวม 1.32 หมื่นล้านบาท เนื่องจากต้องเพิ่มทรัพยากรและเครื่องมือในการทำงานนอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างเป็นหลักด้วย
ส่วนสัญญาที่ 5 งานสัมปทาน เพื่อเชื่อมต่อสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน 1 กิโลเมตร ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ซึ่ง ครม.เห็นชอบให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ เริ่มต้นกระบวนการคัดเลือกเอกชนดำเนินการในรูปแบบ PPP Net Cost เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 ด้วยนั้น นายยงสิทธิ์กล่าวว่า คณะกรรมการมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ จะเริ่มกำหนดร่าง TOR ได้ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ โดยหากเลือกแนวการเจรจากับ BMCL โดยไม่เปิดประมูลใหม่นั้น จะต้องเสนอขอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงการคลังก่อน คาดว่าจะได้ข้อยุติภายในปี 2556
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เหนือ) ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ประกอบไปด้วย 6 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งยกระดับส่วนตะวันออก ช่วงบางซื่อ-เตาปูน-สะพานพระนั่งเกล้า ซึ่ง รฟม.ได้ลงนามในสัญญากับกิจการร่วมค้า CKTC เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2552 มูลค่า 14,242 ล้านบาท มีความก้าวหน้าร้อยละ 82.73
สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งยกระดับส่วนตะวันตก ช่วงสะพานพระนั่งเกล้าถึงคลองบางไผ่ ลงนามในสัญญากับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2553 มูลค่า 13,000 ล้านบาท มีความก้าวหน้าร้อยละ 76.72
สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงที่บริเวณคลองบางไผ่ และอาคารจอดรถ 4 แห่ง ลงนามในสัญญากับกิจการร่วมค้าพีเออาร์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 มูลค่า 5,000 ล้านบาท มีความก้าวหน้าร้อยละ 48.88
สัญญาที่ 6 งานระบบราง ลงนามในสัญญากับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ลงนามเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2555 มูลค่า 3,335 ล้านบาท มีความก้าวหน้าโดยรวมร้อยละ 43.61 แต่ในส่วนของงานโยธามีความก้าวหน้าร้อยละ 72.16 ส่วนงานระบบรถไฟฟ้าและการเดินรถ
สัญญาที่ 4 ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 แบ่งเป็นงานระยะที่ 1 การจัดหา ติดตั้ง ทดสอบระบบรถไฟฟ้า และทดลองเดินรถไฟฟ้า ส่งมอบไม่เกิน 40 เดือน วงเงินรวม 13,243 ล้านบาท งานนระยะที่ 2 การให้บริการการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษานับจากส่งมอบงานจนสิ้นสุดสัญญา รวม 30 ปีนับจากวันที่ลงนามในสัญญา โดยรวมมูลค่าสัญญาทั้ง 2 งาน 82,625 ล้านบาท
และสัญญาที่ 5 งานสัมปทาน เพื่อเชื่อมต่อสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน 1 กิโลเมตร ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ซึ่ง ครม.เห็นชอบให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ เริ่มต้นกระบวนการคัดเลือกเอกชนดำเนินการในรูปแบบ PPP เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 ด้วย
