xs
xsm
sm
md
lg

“JMART” ตั้งเป้าโตปีนี้ 40% มั่นใจ 3-5 ปี กำไรทะลุพันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


JMART มั่นใจปีนี้รายได้โตกว่า 40% จากราคามือถือที่ถูกลง และรองรับ 3G มากขึ้น ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ภายใน 3-5 ปี เผยเตรียมตั้งบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนใน mai ลงทุนขยายฐานตลาดมือถือในพม่า เพราะตลาดยังโตได้อีกมาก

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท หรือ JMARTกล่าวในงานสัมมนาเจาะกลุ่มหุ้น ICT ปรับพอร์ตลงทุนครึ่งหลังปี 56 ว่า ในปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้ และกำไรเติบโตที่ 40% เนื่องจากจะได้รับผลดีจากในช่วงครึ่งปีหลังที่เป็นการเดินเครื่องเทคโนโลยี 3G อย่างเต็มรูปแบบ หลังบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเริ่มทำการตลาดอย่างเต็มตัว  ซึ่งจะทำให้มีผู้ใช้โทรศัพท์ และข้อมูลบนโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ตลาดมือถือโตขึ้นมากกว่า 10% โดยที่ผ่านมา ในช่วงไตรมาสแรกบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 50% และราคาสมาร์ทโฟนโดยเฉลี่ยเริ่มมีการแข่งขันที่สุงขึ้นทำให้มีราคาที่ถูกลง โดยเฉลี่ยเครื่องละ 2,500 บาท ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีกำลังซื้อได้มากขึ้น  

โดยบริษัทฯ ได้มีการตั้งเป้าหมายในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จะมีกำไรสุทธิแตะ 1,000 ล้านบาท โดยพิจารณาย้อนหลังจากปี 2555 บริษัทมีฐานกำไรสุทธิอยู่ที่ 352.32 ล้านบาท จากการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศพม่าที่มีแผนขยายสาขาให้ได้ 90 สาขา ภายใน 3 ปี จากปีนี้ที่ตั้งเป้าจะขยายให้ครบ 20 สาขา โดยตลาดพม่าเป็นตลาดที่มีโอกาสที่สุดที่ของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากประเทศพม่ามีจำนวนเลขหมายโทรศัพท์ต่อจำนวนประชากรเพียง 5% ทำให้ตลาดในประเทศพม่าสามารถเติบโตได้อีกมาก ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศไทยที่ 120% เวียดนาม 140% ลาวและกัมพูชา 90%

ทั้งนี้ ช่วงครึ่งหลังของปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าประมาณการที่อาจเห็นการแข่งขันของค่ายมือถืออย่างเต็ม 100% นั่นก็หมายความว่า จะทำให้มีผู้ใช้ข้อมูลทางมือถือมากขึ้น ตลาดของมือถือก็จะใหญ่ขึ้น ซึ่งตรงนี้บริษัทฯ คงจะได้รับผลในทางบวก โดยที่ปัญหาเรื่องความเสี่ยงอื่น ทั้งกำลังซื้อ และการเมืองคงจะไม่กระทบ บริษัทมีนโยบายชัดเจนในพม่า และปีนี้จะเปิดให้ได้ 20 สาขา และจะเพิ่มเป็น 90 สาขา ภายใน 3 ปี อาจจะต้องมีการเพิ่มทุนในบริษัทลูกบ้างบางส่วน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้งบถึง 750 ล้านบาท ในระยะ 3 ปีข้างหน้า แต่จะใช้แนวทางไหนในการเพิ่มทุนนั้นคงต้องรอการศึกษาว่าแนวทางไหนจะมีความคุ้มค่าที่สุดต่อบริษัทฯ            

“อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจจะมีการเพิ่มทุนในบริษัทลูกที่เปิดกิจการร่วมค้าในประเทศพม่า โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนที่ประมาณ 40% แต่จะเป็นการเลือกแนวทางไหนนั้นคงต้องรอความชัดเจนต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น