นายกสมาคมโลกร้อนร่อนจดหมายเปิดผนึกถึง “นายกฯ ปู” พร้อม “ครม.-กนอช.-กบอ.” จี้ยกเลิกเพิกถอนประมูลโครงการระบบบริหารจัดการน้ำทั้ง 9 โมดูล เตือนหากยังแข็งขืนเดินหน้าต่อจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดกฎหมายอาญา ม.157 และกฎหมายฮั้ว และหากยังเดินหน้าลงนามจ้างจะฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ทำจดหมายเปิดผนึกลงวันที่ 5 ก.ค. ถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี รวมถึงคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ขอให้ยกเลิกหรือเพิกถอนการประมูลโครงการน้ำของ 4 กลุ่มบริษัทร่วมค้าต่างๆ ทั้ง 9 โมดูล (Module)
เนื้อหาในจดหมายระบุว่า ตามที่ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 1025/2556 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 โดยได้พิพากษาให้ นายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ กยน. คณะกรรมการ กนอช. และคณะกรรมการ กบอ. หรือผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ ปฏิบัติหน้าที่ตามที่มาตรา 57 วรรคสอง และมาตรา 67 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กำหนดให้ต้องปฏิบัติ ด้วยการนำแผนแม่บทสำหรับการบริหารจัดการน้ำไปดำเนินการจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึง ตามเจตนารมณ์ของส่วนที่ 10 สิทธิในข้อมูลข่าวสารและการร้องเรียน และดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดให้มีการศึกษาและจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ตามเจตนารมณ์ของส่วนที่ 12 สิทธิชุมชน ซึ่งอยู่ในหมวด 3 สิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ ก่อนที่จะดำเนินการจ้างออกแบบและก่อสร้างในแต่ละแผนงาน (Module) ความดังทราบแล้วนั้น
เนื่องจากกระบวนการและเจตนารมณ์ของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามที่กฎหมายกำหนดนั้นก็เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติราชการทางปกครอง อันมีผลหรืออาจมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของตนได้ด้วย (ส่วนที่ 10 มาตรา 58) ดังนั้น เมื่อรัฐบาลนำแผนแม่บทสำหรับการบริหารจัดการน้ำไปดำเนินการจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงแล้ว เชื่อว่าแผนงานโครงการต่างๆ ที่คณะกรรมการ กยน., กนอช. หรือ กบอ. ได้กำหนดไว้แต่เดิม หรือตามทีโออาร์ (TOR) นั้น จะต้องเปลี่ยนแปลงไป โครงการฯอาจมากขึ้นหรือถูกปรับลดให้น้อยลงกว่าเดิมก็เป็นได้
ดังนั้น การที่รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบกลุ่มบริษัททั้ง 4 บริษัท หรือกิจการร่วมค้าที่เป็นผู้ชนะเลิศในการเปิดประมูลประกวดซองราคากันเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2556 เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2556 แล้วนั้น ถือได้ว่าเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ในหมวดที่ 10 และหมวดที่ 12 โดยชัดแจ้ง ตามที่ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว
จดหมายเปิดผนึกระบุว่า เพื่อไม่ให้รัฐบาลมีภาระผูกพันและเกิดความเสียหายต่อภาระหนี้สินของประเทศ อันอาจก่อนิติสัมพันธ์ในทางปกครองกับกลุ่มบริษัททั้ง 4 บริษัท หรือกิจการร่วมค้าที่เป็นผู้ชนะเลิศในการเปิดประมูลประกวดซองราคาดังกล่าวทั้งในและต่างประเทศ และเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียได้มีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติราชการทางปกครองเกี่ยวกับการกำหนดหรือปรับปรุงแก้ไขแผนแม่บทสำหรับการบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มที่ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงใคร่ขอกราบเรียนมายัง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการ กนอช. และคณะกรรมการ กบอ. ได้โปรดสั่งยกเลิกหรือเพิกถอนการประมูลหรือประกวดราคาโครงการระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยทั้ง 9 โมดูลดังกล่าวเสีย ณ บัดนี้ ด้วยเหตุผลดังได้กล่าวแล้ว
และเมื่อรัฐบาลได้ดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาในหมวดที่ 10 และหมวดที่ 12 โดยเฉพาะมาตรา 57 วรรคสอง และมาตรา 67 วรรคสองครบถ้วนแล้ว กลุ่มบริษัททั้ง 4 บริษัทหรือกิจการร่วมค้าดังกล่าว และหรือกลุ่มบริษัทอื่นๆ ที่สนใจก็สามารถที่จะเข้ามาเสนองานประกวดราคาได้อีกในอนาคต ตามเงื่อนไขใหม่ที่รัฐบาลกำหนด หากไม่ดำเนินการรัฐบาลและหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ในทางมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการฮั้ว) พ.ศ. 2542 โดยทันที และอาจถูกบริษัทต่างๆ ที่เคยเป็นผู้ร่วมเสนอกรอบแนวคิด (Conceptual Plan)กว่า 300 บริษัทฟ้องร้องเอาได้ และหรือสมาคมฯ จะยื่นศาลปกครองฟ้องร้องเพิกถอนโดยทันที่ที่ฝ่าฝืน ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลในอนาคต