xs
xsm
sm
md
lg

“บางจาก” ลั่นปีหน้าแซง “เอสโซ่” รั้งผู้ค้าน้ำมันอันดับ 2 รอง ปตท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - บางจากฯ ขยับเป้าหมายการเป็นผู้ค้าปลีกน้ำมันรั้งอันดับ 2 เร็วขึ้นจากปี 58 เป็นปีหน้าแซง “เอสโซ่” หลังยอดขายน้ำมันช่วงเดือน พ.ค.ห่างกันแค่ 2 ล้านลิตร/เดือน เป็นผลจากการขยายปั๊มเพิ่มขึ้นและยอดขายแก๊สโซฮอล์เพิ่มสูงขึ้นมาก

นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขยับเป้าหมายการค้าเป็นผู้ค้าน้ำมันผ่านสถานีบริการรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ให้เร็วขึ้นเป็นปีหน้า จากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้ในปี 2558 เนื่องจากยอดขายน้ำมันผ่านปั๊มบางจากในช่วงเดือน พ.ค. 2556 ห่างจากผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 คือเอสโซ่ไม่ถึง 2 ล้านลิตร/เดือน เทียบกับ ธ.ค. 2555 ยอดขายน้ำมันผ่านปั๊มบางจากห่างจากผู้ค้าน้ำมันอันดับ 2 ถึง 40-50 ล้านลิตร/เดือน

สาเหตุที่ทำให้ยอดขายผ่านปั๊มน้ำมันบางจากเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น มาจากบริษัทฯ มียอดขายน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์โตถึง 15%% ขณะที่ตลาดรวมโตเพียง 8.3% และดีเซลบางจากโต 8% แต่ตลาดรวมโต 5% คิดเป็นการเติบโตโดยรวมของบางจาก 11.8% ส่วนหนึ่งมาจากบางจากมีการขยายปั๊มจำหน่ายอี 20 เพิ่มขึ้นจาก 580 ปั๊มเป็น 658 ปั๊มในเดือน มิ.ย. 56 และปั๊มขายอี 85 จากเดิม 50 ปั๊มเป็น 70 ปั๊ม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในปลายปีนี้จะเพิ่มการขายอี 20 เป็น 700 ปั๊ม และอี 85 เป็น 100 ปั๊ม

“เราวางแผนการตลาดอี 20 ทำให้ยอดขายโตขึ้น 23% จากแผนที่คาดไว้ว่าจะโต 10% เนื่องจากบริษัทฯ ออกผลิตภัณฑ์อี 20 ยูโร 5 เมื่อ 19 มี.ค. 56 ด้วยภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทน ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 22 ล้านลิตร/เดือนเป็น 27 ล้านลิตร/เดือน และรถยนต์ที่ใช้อี 20 ก็เพิ่มขึ้นเกือบ 2 ล้านคัน”

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบางจากซื้อเอทานอลที่ผลิตจากมันสำปะหลัง ซึ่งมีราคาแพงว่าเอทานอลที่ผลิตจากโมลาสถึงลิตรละ 3 บาท ซึ่งแพงกว่าคู่แข่ง ดังนั้นบางจากจะชะลอการขยายสถานีบริการอี 85 และอี 20 เป็นการชั่วคราว โดยอาจจะชะลอ 10-20% ของจำนวนปั๊มที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบต่อเป้าหมายการเป็นผู้ค้าปลีกน้ำมันอันดับ 2 ในปีหน้าอย่างแน่นอน

ที่ผ่านมาบางจากปฏิบัติตามคำร้องขอของรัฐบาลที่ให้ใช้เอทานอลจากมันสำปะหลังร้อยละ 38 และจากโมลาสร้อยละ 62 ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ใช้เอทานอลจากมันสำปะหลังสูงถึงร้อยละ 49 ส่งผลให้ค่าการตลาดต่ำกว่าที่ควรจะเป็น 30-40 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันหลายรายไม่ได้ปฏิบัติตามคำร้องขอของรัฐบาลใช้กากน้ำตาลเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานรัฐเองก็อยู่ระหว่างการหารือผู้ค้าน้ำมันเพื่อหาแนวทางออกอยู่

จากการยกเลิกเบนซิน 91 ส่งผลให้ยอดใช้เอทานอลเพิ่มจาก 2.1 ล้านลิตร/วัน เป็น 2.5-2.6 ล้านลิตร/วัน และคาดจะเพิ่มเป็น 3 ล้านลิตร/วัน ถ้าไม่มีมาตรการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก็อาจจะเกิดปัญหาการขาดแคลนเอทานอลได้

นายยอดพจน์กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติงบลงทุนทำปั๊มน้ำมัน 3 พันล้านบาทใน 3 ปีนี้ ซึ่งเป็นงบปรับปรุงปั๊มน้ำมันและสร้างใหม่ โดยปีนี้ใช้เงินไปแล้ว 800 ล้านบาท ซึ่งในการขยายปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่จะต้องมี 100 แห่งมาจากการสร้างปั๊มใหม่เอง และการเข้าไปเปลี่ยนแบรนด์อื่นที่หมดสัญญามาเป็นบางจาก ซึ่งวิธีนี้เริ่มทำ เปิดแล้ว 6 สาขาจาก 10 สาขา พบว่ามียอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นจากเดิม 30-40%เมื่อเปลี่ยนเป็นปั๊มบางจาก

ส่วนการลงทุนขยายปั๊มน้ำมันในพม่านั้น ในปีนี้จะเปิดปั๊มบางจากแห่งที่ 2 ที่เมียวดี ขณะเดียวกันก็เตรียมเปิดปั๊มน้ำมันที่มีธุรกิจนอนออยล์ คือ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและร้านกาแฟอินทนิลที่ย่างกุ้งด้วย ส่วนลาวยังมีข้อจำกัดในการเปิดปั๊มบางจากเกี่ยวกับไลเซนส์เช่นเดียวกับกัมพูชา โดยยืนยันว่าบางจากจะไปลงทุนค้าปลีกน้ำมันที่ประเทศเหล่านี้แน่นอนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
กำลังโหลดความคิดเห็น