ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ปตท.ยิ้มแก้มปริ หลังประสบผลสำเร็จรุกตลาดปั๊มน้ำมันในลาว ผู้ใช้รถยนต์ตอบรับปั๊มครบวงจร โอ่ยอดขายมากกว่า 6 แสนลิตรต่อเดือน ขึ้นแท่นแชร์ตลาดค้าปลีกน้ำมันเบอร์ 2 รองจากรัฐวิสาหกิจเชื้อไฟลาว ตั้งเป้าภายใน 5 ปีขยายให้ถึง 60 แห่ง วางกรอบรุกตลาดทั่วอาเซียน ขึ้นแท่นแบรนด์น้ำมันระดับพรีเมียมในเออีซี
วันนี้ (9 ก.ค.) นายไพฑูรย์ พันพูล รองผู้อำนวยการ บริษัท พีทีที (ลาว) จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสถานีบริการหนองแต่ง กำแพงนครเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นสถานีบริการน้ำมันแบบครบวงจรของ ปตท.แห่งแรกในลาว เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ 4 กรกฎาคม 2555 ประสบผลสำเร็จมาก ผู้ใช้รถยนต์ในกรุงเวียงจันทน์ให้การตอบรับสูง ทำให้ยอดขายน้ำมันใสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยอดขายปลีกน้ำมันใส ณ สถานีบริการหนองแต่งสูงถึง 6 แสนลิตรต่อเดือนแล้ว
สำหรับสถานีบริการ ปตท.ที่บ้านหนองแต่งถือเป็นปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ 20 หัวจ่าย มีร้านกาแฟ Amazon มินิมาร์ท U-Express ธนาคาร ST Bank ธนาคารท้องถิ่นของลาว ร้านขายยา ซุ้มขายอาหาร บริการล้างรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ใช้เงินลงทุนรวมกว่า 44 ล้านบาท จำหน่ายน้ำมันดีเซล และเบนซิน 91 โดยรับน้ำมันจากคลัง ปตท.ที่ จ.อุดรธานี
ผู้ใช้รถยนต์ในลาวให้การตอบรับ โดยส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าชาวลาวที่เคยเข้ามาทำธุระที่เมืองไทย และกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยสถานีบริการแบบครบวงจรนั้นฉีกตลาดรูปแบบสถานีบริการน้ำมันทั่วไปในลาว ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดน้ำมันใสของ ปตท.ลาวเพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2011 ปตท.ลาวมีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกับ Petro trade และ Petro Vietnam ที่ 13% โดยรัฐวิสาหกิจเชื้อไฟลาวครองตลาดสูงสุดที่ 31%
ล่าสุดครึ่งปีแรกของปี 2013 ปตท.ลาวแชร์ตลาดอันดับ 2 ที่ 14% รองจากเชื้อไฟลาวเท่านั้น ซึ่ง ปตท.ลาวพร้อมขยายสาขาครอบคลุมทุกแขวง โดยตั้งเป้าปี 2017 จะมีสาขา ปตท.กว่า 60 แห่ง โดยแขวงใหญ่จะมีส่วนบริการครบวงจร ทั้งมินิมาร์ท ธนาคาร บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง กาแฟ ส่วนแขวงเล็กอาจลดขนาดลงให้เหมาะสมกับขนาดตลาด
ด้านนายไพศาล สมบูรณ์กิจชัย ผู้จัดการเขตการขายอาวุโส ฝ่ายการตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท มีแผนรุกธุรกิจสถานีบริการน้ำมันในภูมิภาคอาเซียน โดยตั้งวิสัยทัศน์เป็นแบรนด์ชั้นนำธุรกิจน้ำมันในภูมิภาค จึงขยายธุรกิจสถานีบริการน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยยึดรูปแบบสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ในเมืองไทยที่ประสบผลสำเร็จทางการตลาด ใช้เป็นรูปแบบขยายธุรกิจ และสร้างการรับรู้ในแบรนด์ ปตท.
โดยตลาดอาเซียนมีความน่าสนใจกว่าตลาดภูมิภาคอื่นทั่วโลก เนื่องจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาเซียนโดดเด่นกว่าภูมิภาคอื่น ทำให้ตลาดสถานีบริการน้ำมันขยายตัวจาก 60 ล้านคนเป็น 600 ล้านคน โดยการลงทุนจะพิจารณาจากความน่าสนใจของตลาดประเทศนั้น ทั้งขนาดตลาด ภาพรวมการแข่งขัน อัตราการเจริญเติบโต และความยากง่ายการทำธุรกิจ
เบื้องต้น ปตท.ได้รุกเข้าไปลงทุนสถานีบริการน้ำมันใน 3 ประเทศ ประกอบด้วย ลาว ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา โดยข้อมูลปี 2012 ที่ลาวมีสถานีบริการน้ำมัน ปตท.แล้ว 20 แห่ง ตั้งเป้าในปี 2017 จะมี 60 แห่ง ส่วนกัมพูชาปัจจุบันมี 14 แห่ง ปี 2017 จะเพิ่มเป็น 45 แห่ง และฟิลิปปินส์ มี 50 แห่ง เพิ่มเป็น 135 แห่งในปี 2017 เฟสที่สองจะเข้าไปลงทุนในประเทศพม่าเพราะเปิดประเทศแล้วเป็นตลาดใหญ่ มีประชากรใกล้เคียงกับไทย แต่กฎระเบียบยังไม่อำนวยนัก โดย ปตท.เป็นบริษัทต่างชาติแห่งแรกที่เข้าไปทำสถานีบริการน้ำมันในพม่า และเป็นการลงทุนในลักษณะที่ครบวงจร มีทั้งสถานีบริการน้ำมัน คลังน้ำมัน โรงกลั่น และธุรกิจเสริมอื่น
ส่วนเฟสที่สามวางเป้าหมายจะเข้าไปลงทุนสถานีบริการน้ำมันในเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย แม้ว่าทั้ง 3 ประเทศนี้จะเป็นตลาดใหญ่ แต่กฎระเบียบยังไม่อำนวย หากมีการผ่อนคลายอาจเข้าไปร่วมลงทุน และเฟสสุดท้ายคือ บรูไน สิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดเล็ก ไม่เหมาะต่อการลงทุนสถานีบริการน้ำมัน อาจทำเพียงการค้าน้ำมันเล็กน้อยเท่านั้น และที่สำคัญการเข้าไปลงทุนแต่ละประเทศ ปตท.จะยึดหลักการตลาดเพื่อสังคมนั้นด้วย