ทอท.เผยปี 55 มีผู้โดยสารใช้บริการทั้ง 6 สนามบินกว่า 74 ล้านคนเพิ่มขึ้น 11.95% ส่วนเที่ยวบินมีเกือบ 5 แสนเที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.5% โดยสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารสูงสุดกว่า 51.4 ล้านคน ส่วนภูเก็ตมีกว่า 9.4 ล้านคน เกินขีดรองรับ “สมชัย” เร่งแผนพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 และขยายภูเก็ต และเร่งปรับการบริการทุกด้านรับเปิด AEC
นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง และรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานด้านการให้บริการและปริมาณจราจรทางอากาศ ในปี 2555 (มกราคม 2555-ธันวาคม 2555) ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) มีผู้โดยสารรวมประมาณ 74,261,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11.95 โดยเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 46,012,000 คน ผู้โดยสารภายในประเทศ 28,249,000 คน สำหรับเที่ยวบินมีจำนวนรวมประมาณ 496,749 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.5% เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 275,422 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 221,327 เที่ยวบิน
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีเที่ยวบินและผู้โดยสารมากที่สุด โดยมีผู้โดยสาร 51,462,000 คน และเที่ยวบิน 312,493 เที่ยวบิน รองลงมาคือ ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 9,446,000 คน และมีเที่ยวบินใช้บริการประมาณ 60,457 เที่ยวบิน
ทั้งนี้ ทอท.อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ในปีงบประมาณ 2554-2560 โดยในเดือนมิถุนายน 2555 ทอท.ได้จ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ ได้แก่ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา EPM Consortium โดยที่ปรึกษาได้จัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคาของงานออกแบบ และคาดว่าจะประกวดราคาได้ผู้ออกแบบภายในเดือนเมษายน 2556 จากนั้นจะใช้เวลาออกแบบ 10 เดือน (พ.ค. 2556 - ก.พ. 2557) แบ่งเป็น 3 กลุ่มงาน ได้แก่ 1. งานออกแบบกลุ่มงานอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 ซึ่งประกอบด้วย งานออกแบบอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 งานออกแบบลานจอดอากาศยานประชิดอาคาร และงานออกแบบและก่อสร้างส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้และระบบขนส่งผู้โดยสาร 2. กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร ซึ่งประกอบด้วย งานออกแบบส่วนขยายอาคารผู้โดยสารไปทางด้านทิศตะวันออก และงานออกแบบก่อสร้างอาคารสำนักงานและอาคารจอดรถ และ 3. กลุ่มงานออกแบบระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และหลังจากนั้นภายในปี 2557 จะเป็นการจัดทำข้อกำหนดจัดจ้างผู้ก่อสร้างและผู้ควบคุมงาน ซึ่งตามแผนงานจะได้ผู้ก่อสร้างและผู้ควบคุมงานในเดือนสิงหาคม 2557
ส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระหว่างปี 2553-2557 ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคน เป็น 12.5 ล้านคนต่อปีนั้น ในปี 2555 ที่ผ่านมา ทอท.ได้เริ่มดำเนินงานก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์และลานอเนกประสงค์ อาคารสำนักงาน อาคารสำนักงานส่วนบำรุงรักษาและคลัง ทภก. รวมถึงงานก่อสร้างอาคารบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น (GSE) และอาคาร Operation & Maintenance (O&M) และงานก่อสร้างคลังสินค้า และในปี 2556 จะเริ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
สำหรับการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองนั้น ในปี 2556 ทอท.มีแผนที่จะปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 อาคารเทียบเครื่องบิน 5 อาคารที่จอดรถยนต์ 7 ชั้น รวมทั้งปรับปรุงระบบสื่อสารและระบบสาธารณูปโภค ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้เป็น 27.5 ล้านคนต่อปีจนถึงปี 2570
โดยในปี 2555ที่ผ่านมา ทอท.ได้มีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในท่าอากาศยาน เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการปรับปรุงห้องสุขาภายในอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน มีการประสานงานกับ ตม.เพื่อเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ และติดตั้งเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ ซึ่งได้ช่วยลดระยะเวลาในการตรวจหนังสือเดินทางจากเดิม 45 วินาทีต่อคนให้เหลือเพียง 20 วินาที รวมทั้งได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาออก ส่วนในปี 2556 จะมีการย้ายเคาน์เตอร์ขายบัตรโดยสารทั้งหมดขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 6 ของอาคารผู้โดยสาร และจะปรับปรุงพื้นที่ปัจจุบันในส่วนของผู้โดยสารขาออกดูโล่ง โปร่งตา และมีพื้นที่ให้บริการผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 1,000 ตารางเมตร ซึ่งจะให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
และในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขัน และมีการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ และจะมีการเปิดน่านฟ้าเสรี และจัดตั้งตลาดการบินร่วม ดังนั้น ทอท.ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ได้เร่งรัดการปฏิรูปการบริหาร การจัดการองค์กร และพัฒนาการบริการเพื่อให้ท่าอากาศยานของ ทอท.สามารถรองรับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการชดเชยค่าเสียหายให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเสียงจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น จนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2555 ทอท.ได้จ่ายเงินชดเชยไปแล้วทั้งสิน 3,901,982,722.96 ล้านบาท โดยในส่วนของผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อาศัยในพื้นที่ NEF มากกว่า 40 ที่ก่อสร้างก่อนปี 2544 ทอท.ได้ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแล้ว 163 อาคาร และจ่ายเงินปรับปรุงอาคารเพื่อลดผลกระทบด้านเสียงไปแล้ว 416 อาคาร สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ NEF 30-40 ทอท.ได้จ่ายเงินค่าปรับปรุงอาคารแล้ว 13,129 อาคาร นอกจากนั้นยังได้จ่ายค่าชดเชยเพื่อปรับปรุงสถานที่อ่อนไหวต่อผลกระทบด้านเสียง ได้แก่ สถานศึกษา สถานพยาบาล และศาสนสถาน รวมแล้ว 21 แห่ง