ถนนทุกสายจากตลาดหุ้น กำลังพุ่งเข้าสู่ "นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมยื่นข้อเสนอแนวทางและมาตรการ เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนและเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา
สภาธุรกิจตลาดทุนไทยหรือ FETCO เตรียมนำ 7 องค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ เข้าพบนายเอกนิติ เพื่อเสนนอแผนกระตุ้นการลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นข้อเสนอลดภาษี เช่น การยกเว้นภาษีเงินปันผล การกำหนดวงเงินลดหย่อยภาษีสำหรับการลงทุนระยะยาว
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมรายงานสถานการณ์ตลาดทุน ปัญหาที่จะแก้ไข และการแก้กฎหมาย เพื่อให้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การที่ทุกองค์กรในตลาดทุน เตรียมนำปัญหาและข้อเสนอแนวทางแก้ไข เพื่อยกระดับตลาดหุ้นไทยเสนอรัฐมนตรีคลังคนใหม่ เป็นปรากฏการณ์ในเชิงสร้างสรรค์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่ละครั้ง การเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่ละคน ไม่เคยมีองค์กรหรือหน่วยงานใดในตลาดทุน ติดต่อขอเข้ารายงานปัญหาของตลาดหุ้น แนวทางการแก้ปัญหา และมาตรการกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่อย่างใด
การที่ 7 องค์กรตลาดทุน และ ก.ล.ต. เตรียมเข้าพบนายเอกนิติ เพื่อรายงานสถานการณ์ตลาดหุ้นและเสนอแผนกระตุ้นการลงทุน จึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมหรือประเพณีที่ดี ซึ่งจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่จะถูกนำไปปฏิบัติต่อไป ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีคลัง
สำหรับ ก.ล.ต. เตรียมยื่นข้อเสนอให้นายเอกนิติ ซึ่งล้วนเป็นข้อเสนอที่จะช่วยให้การกำกับดูแลตลาดหุ้น มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเสนอเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและการกำกับดูแลการขายหุ้น โดยที่ยังไม่มีหุ้นอยู่ในการครอบครอง หรือ NAKED SHORT ซึ่งเป็นการเอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป และเป็นปัญหาที่พูดกันมาหลายปีแล้ว
อีกหนึ่งในข้อเสนอที่สำคัญคือ การยกระดับการทำหน้าที่ของผู้ประกอบการในตลาดทุน เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ทั้งผู้สอบบัญชี สำนักงานสอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และผู้ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดทุนที่อยู่ต่างประเทศ
เพียงแต่ข้อเสนอการยกระดับการทำหน้าที่ผู้ประกอบการในตลาดทุน ยังไม่มีรายละเอียดว่า ก.ล.ต.จะทำอย่างไร เพื่อให้บรืษัทจดทะเบียนผู้สอบบัญชี สำนักงานสอบบัญชี บรรดาบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน สถาบันจัดอันดับความเน่าเชื่อถือ บริษัทโบรกเกอร์ในต่างประเทศและคัสโตเดียน หรือผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สินในตลาดประเทศ ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง มีความรับผิดชอบ มีจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพ
ไม่ร่วมมือกับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ก่ออาชญากรรมในตลาดหุ้น ไม่ร่วมมือกับนักลงทุนทั้งในและต่างชาติ ลักลอบแหกกฎ เอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป
และข้อเสนอการกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของ ก.ล.ต. มีอำนาจสืบสวนและสอบสวนการกระทำความผิดในคดี High Impact หรือความผิดในคดีที่ส่งผลกระทบร้ายแรงในวงกว้าง รวมทั้งข้อเสนอ การกำหนดมาตรการทางกฎหมายเพื่อยับยั้งธุรกรรมที่อาจเป็นการเอาเปรียบหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
การเพิ่มอำนาจการสืบสวนและสอบสวน จะทำให้การทำงานของ ก.ล.ต. มีความรวดเร็วขึ้น สามารถดำเนินคดีผู้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาชนิดถึงลูกถึงคน และระงับความเสียหายไม่ให้กระจายในวงกว้าง
แต่การเพิ่มอำนาจการสืบสวนและสอบสวน ความผิดในตลาดหุ้น ไม่ควรจำกัดอำนาจ ก.ล.ต.ไว้เฉพาะคดีที่ส่งผลกระทบร้ายแรงในวงกว้าง แต่ควรเพิ่มอำนาจทุกคดีอาชญากรรมในตลาดหุ้นที่ก่อความเสียหายให้ประชาชนผู้ลงทุน ไม่เลือกว่าเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ เพื่อกวาดล้างอาชญากรในตลาดหุนให้สิ้นซาก
ส่วนการกำหนดมาตรการทางกฎหมาย เพื่อยับยั้งธุรกรรมที่อาจเป็นการเอาเปรียบหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน ก็เป็นข้อเสนอที่ดี
เพราะทุกวันนี้ บริษัทจดทะเบียนมีธุรกรรมที่ต้องสงสัยในความไม่โปร่งใส เข้าข่ายการผ่องถ่าย ไซฟ่อนเงินจำนวนมาก เอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อย ล่าสุดคือกรณี การขายหุ้น ”รีนาเซนเต” ห้างสรรพสินค้าในอิตาลี ของบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC
ธุรกรรมอันต้องสงสัย เป็นการถ่ายเทเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน ปล้นผู้ถือหุ้นรายย่อย เกิดขึ้นถี่ยิบในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมักเป็นธุรกรรมการซื้อหรือขายทรัพย์สิน ในราคาสูงหรือต่ำเกินจริง
การซื้อทรัพย์สิน มักจะวางเงินค่ามัดจำในวงเงินสูงเกนจริง และยกเลิกรายการซื้อทรัพย์สินภายหลัง แต่ไม่รับค่าเงินค่ามัดจำคืน โดยผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ
ถ้า ก.ล.ต.มีอำนาจระงับยับยั้งธุรกรรมอันต้องสงสัยว่า เป็นการไซฟ่อนเงินได้ จะช่วยให้นักลงทุนรายย่อยไม่ถูกปล้น จากบรรดาใจรในคราบผู้บริหารจดทะเบียน ซึ่งทุกวันนี้ยังออกปล้นสะดมผู้ถือหุ้นรายย่อยอยู่
ก.ล.ต.และ 7 องค์กรตลาดทุน เตรียมข้อเสนอฟื้นฟูตลาดหุ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนแล้ว
ตลาดหุ้นหลายปีที่ผ่านมาอยู่ในสภาพรอวันตาย และต้องการยาแรง เพื่อกระตุ้นให้บรรยากาศลงทุนฟื้นคืนสู่ความคึกคัก
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รัฐมนตรีคลังคนใหม่ กำลังเป็นความหวังใหม่ในการปลุกตลาดหุ้นให้ฟื้น แต่แมลงเม่าจะสมหวังหรือไม่ อีก 3 เดือนข้างหน้าจะได้คำตอบ