"เจ้าหนึ่ง" ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ โปรดาวรุ่งของไทย คว้าแชมป์ "ควีนส์ คัพ สมุย กอล์ฟ ทัวร์นาเมนต์ 2009" ซึ่งถือเป็น เอเชียน ทัวร์ รายการที่ 3 ในชีวิต พร้อมก้าวลงกราบ อนันต์ ผดุงศิลป์ บิดาทันทีที่พัตต์เบอร์ดีลูกสุดท้ายลงที่หลุม 18 วันสุดท้าย
กอล์ฟ เอเชียน ทัวร์ รายการ ควีนส์ คัพ สมุย กอล์ฟ ทัวร์นาเมนต์ 2009 ชิงเงินรางวัลรวม 300,000 เหรียญสหรัฐฯ(ราว 10.5 ล้านบาท) แข่งขันระหว่างวันที่ 13-16 สิงหาคมนี้ ที่สนาม สันติบุรี สมุย ระยะ 6,867 หลา พาร์ 71 ดำเนินมาถึงการแข่งขันรอบสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม
โดย ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ ซึ่งก่อนแข่งมี 12 อันเดอร์พาร์รั้งอันดับ 2 ออกรอบในก๊วนเดียวกับ โยชิโนบุ ซึคาดะ ผู้นำรอบสามชาวญี่ปุ่นซึ่งยังไม่เคยคว้าแชมป์ใดได้เลย และ มาร์ส ปูเคย์ จาก ฟิลิปปินส์ อันดับ 3 ร่วม
ซึ่ง "เจ้าหนึ่ง" โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงในวันสุดท้ายสามารถแซงขึ้นมานำได้สำเร็จหลังเก็บเบอร์ดีหลุม 6 จากนั้นไล่ทำเบอร์ดีต่อเนื่องจนครบ 18 หลุมเก็บได้ 4 อันเดอร์พาร์ จาก 6 เบอร์ดีที่หลุม 5,6,7,14,16 และ 18 เสีย 2 โบกี รวม 4 วันมี 16 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ "ควีนส์ คัพ สมุย กอล์ฟ ทัวร์นาเมนต์ 2009" ไปครองโดยทันทีที่ ชินรัตน์ พัตต์เบอร์ดีสุดท้ายลงที่หลุม 18 พาร์ 5 โปรวัย 20 ปีได้เดินทางที่ขอบกรีนพร้อมก้มลงกราบเท้า อนันต์ ผดุงศิลป์ บิดา ซึ่งตามเชียร์ตนตลอด 4 วันของการแข่งขัน
โดย ชินรัตน์ ซึ่งคว้าแชมป์รายการที่ 3 ในชีวิตต่อจากแชมป์ ดับเบิลเอ ที่ระยองปี 2005 ในฐานะสมัครเล่น และ รายการ ควาวน์ พลาซา ที่จีนในปี 2006 พร้อมรับเงินรางวัล 47,550 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1.6 ล้านบาท ออกมากล่าวว่า "ผมต้องขอขอบคุณพ่อที่ตามมาเชียร์ผมครบ 4 วันตามที่ผมขอร้องท่านไป เพราะก่อนหน้านี้ผมรู้สึกว่าตนเองจะเล่นได้ดีในรายการนี้ซึ่งผมก็ทำได้ตามนั้นจริงๆ หลังพ้น 9 หลุมแรกแล้วขึ้นนำผมพยายามตีประคองตัว แต่ก็ยังได้เบอร์ดีเพิ่มมาโดยเฉพาะหลุม 18 ไม่คิดว่าจะลงแต่ก็ลง แชมป์นี้ทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากรอแชมป์เอเชียน ทัวร์มานาน 3 ปี มันทำให้ผมรู้ว่าหากอดทนและรู้จักลุกขึ้นก็มีความสำเร็จรออยู่"
ด้าน อนันต์ ผดุงศิลป์ บิดาของชินรัตน์ ออกมาเผยว่า "เห็นลูกได้แชมป์ผมก็โล่งใจและหายเหนื่อย สภาพจิตใจของเขานิ่งขึ้นมากเมื่อเทียบกับสมัยเป็นแชมป์ที่ จีน ในปี 2006 จากนี้ผมหวังว่าเขาจะเก็บประสบการณ์จากรายการนี้และการได้ไปแข่งขันในยุโรปพัฒนาตนเองต่อไป โดยผมเชื่อว่าวันข้างหน้าเขามีโอกาสติดท็อป 50 ของโลกและได้ไปโชว์ฝีมือใน พีจีเอ ทัวร์"
สำหรับอันดับสองร่วมรายการนี้ที่สกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ มีด้วยกัน 3 คนคือ โยชิโนบุ ซึคาดะ ซึ่งทำ 3 เบอร์ดี 3 โบกี จบรอบโดยทำสกอร์เพิ่มไม่ได้ ,อุดร ดวงเดชา อันดับ 1 ไทยแลนด์ พีจีเอ ซึ่งฟอร์มร้อนทำเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ จาก 6 เบอร์ดี 2 โบกี และ คิม แดฮุน จากเกาหลีใต้ ที่เก็บเพิ่มได้ 3 อันเดอร์พาร์ในวันสุดท้าย
ด้าน ธรรมนูญ ศรีโรจน์ เสียสองโบกีติดที่หลุม 4 และ 5 แต่สามารถแก้คืนได้ถึง 7 เบอร์ดี ทำเพิ่มได้ 5 อันเดอร์พาร์ รวม 4 วันมี 12 อันเดอร์พาร์ คว้าอันดับ 5 ร่วมกับ คีธ ฮอร์น จากแอฟริกาใต้ ขณะที่ "โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์ พยายามเร่งเครื่องเก็บได้ถึง 6 เบอร์ดีแต่เสียคืน 2 โบกีที่หลุม 10 และ หลุมสุดท้ายที่พยายามทำอีเกิลไล่ผู้นำ ทำให้วันสุดท้ายเก็บเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์รวมของเดิมมี 11 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 7 รับเงินรางวัลไป 8,730 เหรียญสหรัฐฯ(ราว 2.9 แสนบาท)
สำหรับผลงานของโปรไทยคนอื่นๆ วรุฒ โฉมแฉล้ม เก็บเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์รวม 2 วันมี 5 อันเดอร์พาร์คว้าอันดับ 14 ร่วม ขณะที่ ถาวร วิรัตน์จันทร์ ตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ รวมของเดิมมี 4 อันเดอร์พาร์ คว้าอันดับ 19 ร่วม ส่วน บุญชู เรืองกิจ เก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ รวมสี่วันมี 1 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 24 ร่วม ในรายของ สมเกียรติ ศรีสง่า เก็บเพิ่มถึง 3 อันเดอร์พาร์รวมจบอีเวนพาร์รั้งอันดับ 28 ร่วม