ความหวังที่เหลืออยู่ของ "แพ็ดดี"

หลังจาก พาเดร็ก แฮร์ริงตัน ครองแชมป์ ดิ โอเพน และ ยูเอส พีจีเอ ทัวร์นาเมนท์ระดับเมเจอร์ 2 รายการติดต่อกันเมื่อปีก่อน หลายคนคาดหมายที่จะเห็นเขาสานผลงานอันยอดเยี่ยมต่อในฤดูกาลนี้ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น โปรชาวไอริชฟอร์มตกลงน่าใจหายอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา รวมถึงผลงานล่าสุดที่จบอันดับ 65 ร่วม ณ สนามเทิร์นเบอร์รีย์ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนจนพลาดโอกาสทำสถิติเป็นนักกอล์ฟคนแรกในรอบกว่า 50 ปีที่คว้าแชมป์เมเจอร์ 3 ปีติดต่อกันบนเกาะอังกฤษ

ตลอดระยะเวลา 11 เดือนนับแต่ชูโทรฟีย์แชมป์ที่สนามโอ๊คแลนด์ ฮิลล์ส ก้านเหล็กวัย 37 ปีลงโชว์วงสวิงทั้งหมด 25 รายการ แต่ไม่ผ่านตัดตัวถึง 10 รายการและจบ 10 อันดับแรกเพียง 2 รายการเท่านั้นซึ่งทัวร์นาเมนท์ล่าสุดต้องย้อนไปในศึกอาบู ดาบี แชมเปียนชิป เมื่อเดือนมกราคม แม้ก่อนลงหวด ดิ โอเพน จะเรียกความมั่นใจคืนมาเล็กน้อยจากการคว้าแชมป์ไอริช พีจีเอ แชมเปียนชิป ทัวร์นาเมนท์เล็กๆที่บ้านเกิด แต่เมื่อลงสนามจริงก็เข้าอีหรอบเดิม โดย "แพ็ดดี" จบรายการด้วยสกอร์รวมเกินไป 12 โอเวอร์พาร์ ตามหลัง สจวร์ต ซิงค์ และ ทอม วัตสัน สองผู้นำร่วมที่เข้าไปเพลย์ออฟถึง 14 สโตรก ก่อนที่ฝ่ายแรกจะชนะจากการดวลกัน 4 หลุมจนคว้าคลาเร็ต จัก ไปครอง

"ผมตระหนักดีว่าผลงานส่วนใหญ่ของผมในฤดูกาลนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่า มันคงเยี่ยมมากหากผมมีไม้กายสิทธิ์เพื่อเสกผลงานที่ผ่านมาและรออยู่ข้างให้ดียิ่งขึ้น แต่เรื่องแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้" แฮร์ริงตัน ยอมรับโดยดุษฎี แต่หลายคนคงตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับโปรที่เคยได้ชื่อว่ามีฟอร์มการเล่นคงเส้นคงวาที่สุดคนหนึ่งของทวีปยุโรปรายนี้? โดยความเห็นจากกูรูกอล์ฟหลายสำนักชี้ไปที่ปัจจัยสำคัญ 2 ประการคือสภาพจิตใจและผลกระทบจากการที่เขาตัดสินใจเปลี่ยนวงสวิงของตนเอง

ประการแรก การทำผลงานไม่ดีอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายรายการย่อมส่งผลต่อความมั่นใจของผู้เล่นทุกคนไม่มากก็น้อย โดย บ็อบ เทอร์แรนซ์ โค้ชส่วนตัวของโปรชาวไอริชก็ยอมรับว่าลูกศิษย์ของตนกำลังประสบปัญหานี้ "เราพยายามแก้ไขสิ่งที่ผมคิดว่าเขาทำผิดพลาดเพื่อกลับมาสู่จุดที่ควรจะต้องเป็น เขามีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ครั้งหนึ่งเขาเคยขึ้นไปถึงจุดสูงสุดด้วยการผ่านหนทางอันยาวไกล แล้วอีกครั้งเมื่อคุณตกลงมา มันจึงยากที่จะกลับคืนไปสู่จุดนั้นอีก แต่ผมคิดว่าเขาจะสามารถปีนกลับขึ้นไปได้ เพียงแต่ความมั่นใจของเขาถูกสั่นคลอนและเขาจะยอมรับต่อปัญหานี้"

อีกประการคือผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนวงสวิง โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา "แพ็ดดี" ออกมาเปิดเผยว่าได้ทำการปรับวงสวิงของตนเองใหม่เพื่อให้จังหวะที่หน้าไม้กระทบลูกมีตำแหน่งที่ดีขึ้น แต่เป็นสิ่งที่หลายคนไม่เห็นด้วยโดยทอม วัตสัน เคยแสดงความเห็นต่อวงสวิงใหม่ของโปรรุ่นน้องระหว่างศึกดิ โอเพนว่า

"ผมดูการเล่นของ พาเดร็ก แฮร์ริงตัน ในเวลานี้ เห็นว่าเขาทำให้การสวิงไม้สั้นลงซึ่งผมคิดว่าสิ่งนี้ทำให้เขาประสบปัญหา ผมชอบการสวิงไม้แบบยาวๆอย่างปีก่อน แต่ตอนนี้มันสั้นลงซึ่งทำให้เขาเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก จังหวะการเล่นของคุณจะเสียไปเลยเมื่อวงสวิงของสั้นลง"

ฤดูกาลนี้ของ แฮร์ริงตัน ยังไม่จบ เขามีรายการยูเอส พีจีเอ รอให้ป้องกันแชมป์อยู่ อีกทั้งยังมีความหวังในการลงแข่งซีรีส์ เฟดเอ็กซ์ คัพ ตอนนี้มีคะแนนอยู่อันดับที่ 130 ห่างจากตำแหน่งที่จะได้รับสิทธิ์ 5 อันดับและมีส่วนต่างเพียง 10 คะแนน หากทำผลงานดีในรายการบริดจ์สโตน อินวิเตชั่นแนล สัปดาห์หน้า ต่อเนื่องไปถึงเมเจอร์รายการที่ 3 ของปี ณ สนามฮาเซลไทน์ ก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมทัวร์นาเมนท์ เฟดเอ็กซ์ เพลย์ออฟ ซีรีส์ทั้ง 4 รายการซึ่งจะเริ่มจากศึก เดอะ บาร์เคลย์ส เป็นรายการแรกในปลายเดือนสิงหาคม

ทั้งหมดนี้คือความหวังต่อผลงานตนเองที่เจ้าตัวกล่าวทิ้งท้ายผ่านสื่อว่า "หากสามารถเข้าสู่การแข่งขันในรายการที่รออยู่ข้างหน้าด้วยสภาพจิตใจที่ดีและมีการเตรียมความพร้อมอย่างถูกต้อง ผลงานก็น่าจะออกมาเป็นที่น่าพอใจ ผมรู้เรื่องนี้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่กลับลืมมันไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเนื่องจากไปทุ่มเทให้กับเรื่องทางเทคนิก แต่ข่าวดีคือตอนนี้ผมจำมันได้อีกครั้งและในครึ่งฤดูกาลที่เหลือน่าจะมีข่าวดีให้กับตนเองบ้าง" แฮร์ริง ตัน ปิดท้าย