ลอเรนา โอชัว ก้านเหล็กสตรีหมายเลขหนึ่งของโลก มีโอกาสประเดิมคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการแรกของปี 2009 ไปครองในศึก “เอสบีเอส โอเพน” ในสัปดาห์นี้ ส่วน มิเชล วี โปรสาวสวยชาวอเมริกัน เตรียมเปิดตัวในฐานะรุคกีนำทัพสวิงดาวรุ่งฟอร์มแรงลงสู้
การแข่งขันกอล์ฟหญิง แอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2009 เปิดฉากขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้ด้วยศึก “เอสบีเอส โอเพน” ชิงเงินรางวัล 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 42 ล้านบาท ที่สนามเทอร์เทิล เบย์ รีสอร์ต กอล์ฟ คลับ รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้การแข่งขันจะเล่นกัน 3 วัน 54 หลุมแบบสโตรกเพลย์ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์นี้ ขณะที่แชมป์เก่ารายการนี้อย่าง แอนนิกา โซเรนสตัม ไม่ได้มาป้องกันแชมป์ เนื่องจากเลิกเล่นไปแล้วเมื่อจบปี 2008
ซึ่งแน่นอนว่าเต็งหนึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ลอเรนา โอชัว โปรมือ 1 ของโลกชาวเม็กซิกัน ที่เตรียมแต่งงานกับ อันเดรส โคเนซา ประธานบริหารของสายการบินเอโร เม็กซิโก ในเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม โอชัว ยืนยันว่าแม้จะมีครอบครัวแล้ว แต่ยังคงต้องการเล่นกอล์ฟต่อไป "กอล์ฟต้องมาก่อน ส่วนชีวิตส่วนตัว ฉันคิดว่ามันเป็นแรงผลักดันมากกว่าการมารบกวนจิตใจ เมื่อคิดว่าฤดูกาลนี้เป็นปีสุดท้ายก่อนที่จะแต่งงาน ดังนั้นฉันก็อยากจะทำผลงานให้ดี ตลอดจนคิดว่ายังเล่นกอล์ฟได้อีก 4-5 ปี และยังไม่คิดเลิกเล่นในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน"
นอกจากนี้ โปรสาววัย 27 ปี ยังยินดีที่ แอลพีจีเอ ทัวร์ มีโปรดาวรุ่งฝีมือดีเพิ่มมากขึ้น อาทิ เจิง หยาหนี จากไต้หวัน, “พิงแพนเตอร์” พอลลา เครเมอร์ สาวสวยชาวอเมริกัน, ชิน จี-ไย ดาวรุ่งจากเกาหลี รวมถึง มิเชล วี ที่เพิ่งผ่านการคัดเลือก คิว-สคูล ได้สิทธิ์เป็นสมาชิกลงเล่น แอลพีจีเอ ทัวร์ อย่างเต็มตัวในปีนี้ "ฉันคิดว่าเป็นเรื่องดี อีกทั้งยังตื่นเต้นมาก นอกจากนี้แฟนกอล์ฟยังได้โอกาสเห็นพวกดาวรุ่งหน้าใหม่ ฉันมั่นใจว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีที่สุดของ แอลพีจีเอ ทัวร์"
อย่างไรก็ตาม โอชัว ยังต้องต่อกรกับขุนพลดาวรุ่งอย่าง มิเชล วี ที่เพิ่งได้สิทธิ์ลงเล่น แอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นปีแรก หลังจากลงเล่นด้วยการรับเชิญมาโดยตลอด เช่นเดียวกับ เจิง หยานี ดาวรุ่งวัย 20 ปีจากไต้หวัน ที่ใช้เวลาเพียงแค่ปีเดียวขยับจากอันดับ 133 มาเป็นมือ 2 ของโลก เจ้าของตำแหน่งรุคกีแห่งปีของ แอลพีจีเอ หลังจากชนะเมเจอร์ แอลพีจีเอ แชมเปียนชิป เมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนี้ยังมี “พิงแพนเตอร์” พอลลา เครเมอร์ โปรสาวสวยเบอร์ 3 ของโลก และ ชิน จี-ไย จากเกาหลีใต้ ที่คว้าเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 35 ล้านบาท จากการชนะรายการสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้วศึก เอดีที แชมเปียนชิป อีกทั้งยังเก็บผลงานคว้าแชมป์ได้ถึง 26 รายการภายใน 3 ปี โดย 20 รายการเป็นในศึก โคเรียน ทัวร์ ส่วนโปรสาวไทยที่ลงแข่งรายการนี้ด้วยมีเพียง "โปรฝน" รัศมี กัลยาณมิตตา เท่านั้น
ทั้งนี้หลังจากจบศึก เอสบีเอส โอเพน กอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ จะพัก 1 สัปดาห์ก่อนถึงศึก “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2009” ชิงเงินรางวัล 1.45 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 50.75 ล้านบาท ที่สนามสยาม คันทรี คลับ พัทยา แพลนเทชัน ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถึง 1 มีนาคมนี้