โรเบิร์ต คาร์ลส์สัน ว่าที่โปรมือ 1 ยุโรปชาวสวีดิช ยืนยันว่าไม่รู้สึกกดดันใดๆ กับการลงแข่ง วอลโว มาสเตอร์ส แม้จะใกล้ครองตำแหน่งทำเงินรางวัลสูงสุดของ ยูโรเปียน ทัวร์ หลังจบทัวร์นาเมนท์นี้แล้วก็ตาม
แม้ว่า พาเดรก แฮร์ริงตัน สวิงชาวไอริช จะได้แชมป์เมเจอร์ถึง 2 รายการติดต่อกันในปีนี้ ทั้ง ดิ โอเพน และ พีจีเอ แชมเปียนชิป แต่ คาร์ลส์สัน ก็เก็บเงินรางวัลนำคู่หูในทีมไรเดอร์ คัพ ของตนเองอยู่เกือบ 3 แสนยูโร จากผลงาน จบ 10 อันดับแรกได้ถึง 12 รายการ อีกทั้งยังคว้าแชมป์ได้ 2 รายการติดต่อกันคือ เมอร์ซิเดส-เบนซ์ แชมเปียนชิป และ อัลเฟรด ดันฮิลล์ ลิงค์ส แชมเปียนชิป
นอกจากนี้ ก้านเหล็กวัย 39 ปี ยังทำผลงานในรายการเมเจอร์เป็นรองเพียงแค่ แฮร์ริงตัน คนเดียว โดยได้อันดับ 8 ใน เดอะ มาสเตอร์ส, อันดับ 4 ใน ยูเอส โอเพน, อันดับ 7 ใน ดิ โอเพน และ อันดับ 20 ใน พีจีเอ แชมเปียนชิป ทำให้เก็บเงินรางวัลไปแล้วกว่า 2.7 ล้านยูโร
โดยหากในสัปดาห์นี้ คาร์ลส์สัน สามารถคว้ารองแชมป์ วอลโว มาสเตอร์ส ได้อีก ก็จะการันตีตำแหน่งทำเงินรางวัลสูงสุดทันที แม้ว่า แฮร์ริงตัน ที่ตามมาอยู่ในอันดับ 2 จะคว้าแชมป์ได้ก็ตาม
ซึ่ง ยอดโปรชาวสวีดิช พูดถึงการลงแข่งรายการสุดท้ายของ ยูโรเปียน ทัวร์ ประจำปี 2008 ว่า "ผมพยายามเล่นในสัปดาห์นี้ให้เหมือนกับทุกทัวร์นาเมนท์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม วอลโว มาสเตอร์ส เป็นรายการใหญ่ดังนั้นก็อยากจะทำผลงานให้ดีที่สุด แต่หากเปลี่ยนเป็นเล่นแบบแบบแมตช์เพลย์แล้วต้องเจอกับผู้เล่นอย่าง แฮร์ริงตัน กับ เวสต์วูด ผมคิดว่าตัวเองคงลำบากไม่น้อย"
"ผมไม่ท้อแท้เลยเวลาตีไม่ดี ช่วงเวลาที่ยากลำบากมากที่สุดในปีนี้ก็คือการทำสกอร์ 74 ในรอบสุดท้ายในรายการ บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป (พลาดแชมป์ทั้งที่นำอยู่ 4 สโตรกก่อนลงเล่นวันสุดท้าย) แต่อีกสัปดาห์ต่อมาผมกลับมาด้วยการคว้ารองแชมป์ที่เวลส์ ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าผมสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีเพียงใด" โปรเจ้าของความสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว พูดถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตนเองใกล้ได้ครองตำแหน่งทำเงินสูงสุด
อย่างไรก็ตาม คาร์ลส์สัน ยอมรับว่าได้เปรียบอยู่มากที่ลงเล่นมากกว่า แฮร์ริงตัน "การมีตำแหน่งทำเงินรางวัลสูงสุดก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับ ยูโรเปียน ทัวร์ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณลงเล่นไปกี่รายการ พาเดรก อาจจะเล่นไปแค่ 12 รายการ ส่วนผมเล่นไปตั้ง 23 รายการ แต่ที่สุดแล้วหากผมได้ตำแหน่งก็คงไม่คิดถึงเรื่องนี้หรอก"
สำหรับศึก วอลโว มาสเตอร์ส ที่จะแข่งกันระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามวัลเดอร์รามา ประเทศสเปน ถือเป็นการจัดแข่งครั้งที่ 21 และจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว มีเงินรางวัลถึง 4.25 ล้านยูโร (ประมาณ 182 ล้านบาท) โดยผู้ชนะจะได้รับเงิน 708,000 ยูโร (ประมาณ 30.4 ล้านบาท) ซึ่งผู้ที่ออกรอบเป็นคนแรกในเวลา 8.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) คือ จัสติน โรส ที่แม้จะไม่ติดอยู่ท็อป 60 แต่ก็ได้เล่นในฐานะแชมป์เก่า ส่วน คาร์ลส์สัน กับ แฮร์ริงตัน ที่รั้งอยู่อันดับ 1 และ 2 จะออกรอบคู่กันเป็นคู่สุดท้ายในเวลา 12.55 น.