บ้านไหนมีคุณหนูตัวเล็กๆ บ้างยกมือขึ้น ? ปิดเทอมนี้หากไม่รู้ว่าจะพาพวกเขาไปเที่ยวไหนขอแนะนำ “นิทรรศการวิทยาศาสตร์แสนสนุก" คิดส์โซนแห่งใหม่สไตล์วิทย์ๆ สำหรับน้องๆ หนูๆ บนพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตรใน อพวช. คลอง5 ที่ถูกเนรมิตให้เป็นสวรรค์สำหรับเด็กวัยซน ด้วยของเล่นส่งเสริมจินตนาการกระตุ้นประสาทสัมผัสหลากสีสัน พร้อมด้วยกิจกรรมแสนสนุกอีกมากมาย
ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ พาไปสำรวจ “นิทรรศการวิทยาศาสตร์แสนสนุก” (Fun Science : NSM KidsZone) นิทรรศการใหม่ล่าสุดภายในตึกลูกเต๋าของ อพวช.ที่คราวนี้ทำขึ้นใหม่เพื่อเอาใจคุณหนูปฐมวัยอายุ 3 ถึง10 ปีรับช่วงปิดเทอม ให้มาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กับสนามเด็กเล่นส่งเสริมพัฒนาการ และเครื่องเล่นแบบแฮนส์ออนเครื่องอีกนานาชนิด ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังความรักวิทยาศาสตร์ให้แก่พวกเขาผ่านประสบการณ์จริง บนพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร บริเวณชั้น 2 ตึกพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ หรือตึกลูกเต๋า ขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คลอง 5 จ.ปทุมธานี
ก่อนที่พาหนูๆ เข้าไปสนุกด้านใน เคยรู้หรือไม่ว่า อพวช.ก่อตั้งมาแล้วถึง 14 ปี ถ้าเทียบกับเด็กๆ ก็คงเป็นเด็กวัยรุ่นที่กำลังจะก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้ใหญ่ มีความสนใจใฝ่รู้หาสิ่งใหม่ๆ มาเติมเต็มตัวเองอยู่ตลอดเวลา สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของ อพวช.ที่มุ่งสร้างความรู้ ความเข้าใจและความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับคนในชาติ โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้ายิ่งควรได้รับการปลูกฝังวิทยาศาสตร์ตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเฉพาะเด็กในช่วงอายุ 3-10 ปีที่เป็นวัยแห่งการเรียนรู้และเหมาะกับการปูพื้นฐาน
นิทรรศการที่นำมาจัดให้เด็กในช่วงวัยนี้เรียนรู้ จึงเน้นไปที่ความสนุกสนาน การฝึกประสาทสัมผัส และการสอนให้พวกเขารู้จักสิ่งที่อยู่รอบๆ ซึ่งภายในนิทรรศการวิทยาศาสตร์แสนสนุกที่จะพามาชมในวันนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ ส่วนของสนามเด็กเล่นสร้างเสริมพัฒนาการ และส่วนของห้องวิทยาศาสตร์แสนสนุกที่จะสอนให้พวกเขาได้รู้จักตัวเองและสิ่งรอบๆ ตัวมากขึ้นผ่านเครื่องเล่นแบบแฮนส์ออนสีสัน และคำบรรยายง่ายๆ เพียงกดปุ่มเพื่อให้หนูๆ ตัวเล็กที่ยังอ่านหนังสือไม่เก่งได้รับความรู้ผ่านการดู และการฟังเหมือนกับพี่ตัวโตๆ ที่เริ่มอ่านหนังสือออกแล้ว
เริ่มกันที่ส่วนความรู้ก่อนดีกว่า "ห้องวิทยาศาสตร์แสนสนุก" อยู่บนชั้น 2 ของตึกลูกเต๋า เป็นห้องของเครื่องเล่นแบบแฮนส์ออนน่ารักๆ ที่เน้นให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ผ่านการเล่นด้วยตัวเอง ซึ่งในห้องนี้จะแยกได้อีกเป็น 3 ส่วนย่อย คือ ส่วนของการรับรู้ทางประสาทสัมผัส, สนุกกับวัสดุรอบตัวเรา และส่วนรีไซเคิล
ส่วนการรับรู้ทางประสาทสัมผัส จะกระจายตัวอยู่ทางด้านล่างของห้อง เมื่อเดินเข้ามาจากประตูจะพบกับ ห้องการมองเห็น (Sight) ก่อนเป็นอันดับแรก ห้องนี้จะเป็นการสอนให้เด็กๆรู้จักสังเกตผ่านการมองไปที่เสาสะท้อนแสง และการมองในกระจกหักเหว่าที่ตาเรามองเห็นกับของจริงแตกต่างกันอย่างและทำไมถึงเป็นแบบนั้น ซึ่งส่วนนี้สร้างความฉงนสงสัยให้กับบรรดาเด็กๆ ได้พอสมควร
ส่วนต่อมาคือการดมกลิ่น (Smell) เป็นส่วนที่ให้เด็กๆ ได้ร่วมสนุกกับการดมกลิ่นผ่านจมูกของตัวเอง ซึ่งเครื่องเล่นในห้องนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษมีรูเล็กๆ ให้น้องๆ ได้ลองดมก่อนจะเฉลยออกมาว่ากลิ่นที่ดมคืออะไร ผ่านการเฉลยด้วยรูปภาพที่ซ่อนอยู่ทางด้านล่างของช่องกลิ่น ทำให้เด็กตัวเล็กๆ สามารถร่วมสนุกกับพี่ๆ ได้อย่างเต็มที่ ส่วนกลิ่นที่นำมาให้ดมก็เป็นกลิ่นจากธรรมชาติที่เด็กๆ น่าจะคุ้นเคย เช่น กลิ่นกล้วยหอม กลิ่นของส้ม
นอกจากนี้ยังมีห้องชิมเพื่อรับรู้รส (Taste) ให้เด็กได้ลองชิมอาหารรสชาติต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรไปพร้อมๆ กับพี่ตัวการ์ตูนบนจอแอลซีดีขนาดใหญ่ที่จะเป็นผู้เฉลยว่าสิ่งที่น้องๆ ชิมอยู่มีรสชาติอย่างไรทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม และขม นอกจากนี้ยังมีส่วนของการได้ยิน (Hearing) การทรงตัวและการเคลื่อนไหว (Balance and Movement) อยู่ในบริเวณเดียวกันให้น้องๆ ได้เลือกเล่นอย่างสนุกสนาน เช่นเครื่องเล่นคล้ายไม้กระดกลาดเอียงสำหรับฝึกการทรงตัว ที่ขอบอกว่าหากทรงตัวไม่ดีแล้วล่ะก็อาจมีมึน มีล้มกันบ้างล่ะงานนี้ ...
ส่วนที่ดูจะเป็นซุ้มขวัญใจเด็กผู้หญิง คือซุ้มการสัมผัส (Touching) ที่ถูกแปลงให้เป็นพื้นที่เล็กๆ สำหรับห้องครัวให้หนูได้เล่น "หม้อข้าวหม้อแกง" กัน แต่หม้อข้าวหม้อแกงสำหรับเด็กที่นี่ดูน่าสนใจจนผู้ใหญ่บางคนยังอยากเล่น เพราะเป็นชุดทำครัวที่เป็นตัวการ์ตูนสีสันสดใสสุดจะน่ารัก ให้เด็กๆ ได้ลองเป็นแม่ครัวตัวน้อย ได้ลองหั่น ลองใช้หม้อขนาดจิ๋วซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มพูนทักษะการสัมผัสได้เป็นอย่างดี
มากันที่ส่วนต่อไปบ้างสำหรับ “สนุกกับวัสดุรอบตัวเรา” (Fun With Materials)
ส่วนนี้จะจัดอยู่ที่ชั้นลอยในห้องวิทยาศาสตร์แสนสนุก เป็นการนำวัสดุต่างๆ เช่น โลหะ, พลาสติก, ไม้, ผ้า และหนังมาสร้างเป็นชิ้นงาน เพื่อให้น้องๆ ได้สังเกตและลองสัมผัสถึงความแตกต่าง ทั้งการลองขึ้นไปเหยียบบนพื้นผิวชนิดต่างๆ เพื่อบอกถึงสัมผัสที่ได้รับ การลองตีกลองที่ขึงหน้าด้วยหนังและกลองโลหะว่ามีเสียงที่แตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นการปูความรู้เบื้องต้นให้น้องๆ ได้รู้จักสังเกตและรู้จักว่าสิ่งไหนคือหญ้า อันไหนคือเหล็ก อันไหนคือหนัง ... ก่อนที่จะก้าวหน้าไปอีกขั้นเพื่อรู้จักกับวัสดุชนิดอื่น
มาที่ส่วนสุดท้ายของห้องวิทยาศาสตร์แสนสนุก สำหรับส่วนของ “รีไซเคิล” ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ทำให้เด็กๆ รู้จักขยะชนิดต่างๆ ว่าชนะชนิดไหนสามารถนำมารีไซเคิลได้และสอนให้เด็กแยกขยะก่อนทิ้ง นอกจากเรื่องของขยะแล้วส่วนนี้ยังให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้จักรยานพาหนะที่ทั้งประหยัดพลังงานและทำให้สุขภาพแข็งแรง เพื่อให้เด็กๆ รู้จักอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า โดยส่วนนี้ตั้งอยู่บนชั้นลอยเช่นเดียวกับส่วนของวัสดุ ... และแล้วก็ถึงเวลาที่เด็กๆ รอคอยเพราะส่วนต่อไปที่จะพาไปชมคือส่วนของสนามเด็กเล่น ที่ให้เด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่ได้พักผ่อนหลังจากเดินชมนิทรรศการ และเป็นส่วนที่มีกิจกรรมพิเศษซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากพี่ๆ อพวช.มาสอนให้น้องๆ ได้ร่วมสนุก
สนามเด็กเล่นอยู่ด้านข้างของห้องวิทยาศาสตร์แสนสนุก มีพื้นที่ให้เหล่าหนูน้อยได้เล่นสนุกกว้างขวางพอสมควร เป็นสนามเด็กเล่นในอาคารที่มีอุปกรณ์ห้อยโหนโจนทะยานครบครัน ซึ่งเครื่องเล่นทั้งหมดผลิตมาจากพลาสติกแข็งอย่างดีสีสันสดใสขนาดใหญ่ ให้เด็กๆ ได้เคลื่อนไหวทรงตัว ออกแรงปีนป่ายสร้างเสริมพัฒนาการและกล้ามเนื้อ รวมถึงทักษะความคิดผ่านการเล่นของเล่นรูปทรงเรขาคณิต ตัวอักษรแม่เหล็กภาษาต่างๆ ที่นอกจากหนูๆ จะได้ทักษะที่ดีกลับไปแล้ว อาจจะได้เพื่อนใหม่กลับไปอีกด้วย เพราะพื้นที่นี้เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ในช่วงวัยเดียวกันได้มาเล่นร่วมกันทำให้ในแต่ละวันอาจมีเด็กจำนวนมากที่คุณพ่อคุณแม่พามา
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมวาดรูประบายสี ตัดกระดาษ ที่พี่ อพวช.นำมาสอนให้น้องๆ ได้ใช้จินตนาการของตัวเองสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ตามความชอบใจผ่านโต๊ะญี่ปุ่นตัวยาวอีกด้วย และอีกสิ่งหนึ่งที่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์สังเกตเห็นและอยากชื่นชม คือเรื่องของความปลอดภัย เพราะที่นี่ใส่ใจเด็กๆ ด้วยการปูพื้นกันลื่น และการมีอุปกรณ์กันกระแทกรองรับตัวเด็กให้มีความสุขได้อย่างเต็มที่โดยคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวล และมั่นใจได้ว่าเด็กๆที่มาเที่ยวชม "นิทรรศการวิทยาศาสตร์แสนสนุก" จะได้รับทั้งความรู้และความสนุก
นิทรรศการวิทยาศาสตร์แสนสนุกเปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) อังคาร–ศุกร์ เวลา 09.30 – 16.00 น. และ เสาร์–อาทิตย์ เวลา 09.30 – 17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 0 2577 9999 ต่อ 1121, 1122
*******************************