เปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้า ควบผลิตน้ำมันไบโอดีเซลคุณภาพสูง แก้ปัญหาขยะล้นเมือง คนวงในชี้ทำได้จริงไม่ขายฝันจับตามาแน่อีก 3 ปี เปิดที่แรกสมุทรปราการ
นายคณพจ นิจสิริภัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.อีสเทิร์น เอเนอร์จี พลัส จำกัด กล่าวว่า บริษัทของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการขยะบริเวณบ่อขยะ อ.แพรกกระสาใหม่ จ.สมุทรปราการ มาเป็นเวลานับ 20 ปี มีความเชี่ยวชาญและเห็นแนวโน้มของปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะขยะจำพวกพลาสติก เขาจึงพยายามหาวิธีที่จะนำขยะพลาสติกในสภาพที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง เพราะทราบดีว่าต้นตอของการผลิตพลาสติกคือปิโตรเลียม เพราะฉะนั้นจะต้องมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์บางอย่างที่จะทำให้พลาสติกเหลือทิ้งเหล่านี้กลายสภาพกลับไปยังจุดกำเนิดเดิมซึ่งก็คือ “ปิโตรเลียม” ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านอื่นเพื่อเปลี่ยนกองขยะกองมหาศาลขนาดวันละ 1,200 ตันให้กลับมาเป็นเงินให้ได้
จากการศึกษาดูงานทางด้านขยะจากที่ต่างๆ ตลอดชีวิตของคณพจ ทำให้เขาสนใจที่จะผลิตน้ำมันไบโอดีเซลคุณภาพสูงจากขยะพลาสติก และตั้งโรงงานไฟฟ้าจากพลังงานขยะ เพราะน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ขยะปริมาณมหาศาลหมดไปและยังได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถสร้างมูลค่าได้งอกเงยขึ้นมา แต่สิ่งที่ทำให้เขาวิตกมากในช่วงแรก คือ ในประเทศไทยยังไม่เคยมีใครทำโรงงานไฟฟ้าจากพลังงานขยะแล้วประสบความสำเร็จ เขาจึงนำแนวความคิดนี้มาปรึกษากับศูนย์เชื้อเพลิงและพลังงานจากชีวมวล ในพื้นที่ จ.สระบุรี ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อแปลงเศษพลาสติกให้เป็นน้ำมัน และออกแบบเตาเผาแบบใหม่ที่รองรับกับขยะของเขา
ศ.ดร.ธราพงษ์ วิทิตศานต์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมีเทคนิค คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้อำนวยการศูนย์เชื้อเพลิงและพลังงานจากชีวมวล กล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากขยะพลาสติกที่ทางจุฬาฯ เป็นผู้ออกแบบให้ เป็นเครื่องไพโรไลซิสแบบ 2 ห้องปฏิกรณ์ ส่วนแรกมีทำหน้าที่ ปั่นแยกชีวมวล เช่น น้ำ ดิน หิน เปลือกหอย ออกจากขยะพลาสติก ซึ่งขยะชีวมวลในส่วนนี้จะถูกนำไปหมักทำไบโอแก๊ส ส่วนที่เป็นพลาสติกสภาพดีก็นำไปขายรีไซเคิล ส่วนที่เป็นพลาสติกชั้นเลวเริ่มผุพังคือส่วนที่จะนำมาใช้ ซึ่งภายหลังจากแยกเสร็จพลาสติกเหล่านั้นจะถูกให้ความร้อนจนกลายเป็นของเหลวที่มีอุณหภูมิประมาณ 400 องศาเซลเซียส และจะถูกส่งต่อไปยังห้องปฏิกรณ์ที่ 2 คือการทำให้โครงสร้างพอลิเมอร์ของพลาสติกเริ่มแตกตัวด้วยการใส่ตัวเร่งปฏิกิริยาจนระเหยเป็นไอน้ำมัน จากนั้นเมื่อไอน้ำมันลอยขึ้นสู่เครื่องคอนเดนเซอร์ก็จะถูกควบแน่นและกลั่นออกมาเป็นไบโอดีเซล และแก๊สบางส่วน
ในส่วนของน้ำมันไบโอดีเซลที่ได้จากกระบวนการนี้จะมีคุณภาพสูงเทียบเคียงกับดีเซลจึงสามารถนำไปเติมให้กับยานพาหนะวิ่งบนท้องถนนได้ตามปกติ และในส่วนของแก๊สจะถูกนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงตั้งต้นสำหรับเตาปฏิกรณ์อีกครั้ง เพื่อใช้ในการต้มน้ำจนเกิดแรงดันไอน้ำที่จะไปหมุนกังหันผลิตกระแสไฟฟ้าที่จะทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้าแบบต้นทุนต่ำ เพราะไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงอย่างน้ำมันในการขับเคลื่อน แต่ใช้พลังงานในตัวเองมาหมุนกังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ศ.ดร.ธราพงษ์ เผยกลไกแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์
อย่างไรก็ดี นายคณพจน์ เผยว่า โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานขยะขนาด 9.1 เมกะวัตต์ยังคงเป็นโครงการในกระดาษ ที่ขณะนี้ดำเนินการเรื่องที่ดินและการวางแปลนสร้างโรงงาน ในพื้นที่ใกล้เคียง บ่อขยะแพรกกระสาใหม่ เป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าโรงงานไฟฟ้าน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเปิดใช้งานเครื่องได้ภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ที่นายคณพจ กล่าวด้วยความมั่นใจว่า ถ้าหากในพื้นที่แรกประสบความสำเร็จ จะมีการขยายโรงงานผลิตกระแสไฟ้าจากพลังงานขยะไปในอีก 10 จังหวัดสำคัญที่ประสบปัญหาขยะล้นเมือง
“จุฬาฯ เขาทำไบโอดีเซลคุณภาพสูงจากชีวมวลได้แล้ว ผมจึงร่วมมือกับจุฬาฯ สร้างโรงผลิตไบโอดีเซลจากขยะพลาสติกขึ้นบ้าง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จและเดินเครื่องผลิตมาเป็นเวลา 7 เดือนแล้วยังไม่พบปัญหา แต่สิ่งต่อไปที่ผมยังค่อนข้างกังวล คือ การทำโรงไฟฟ้าเพราะในประเทศไทยยังไม่เคยมีใครทำโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะได้สำเร็จ เพราะเขาเอาขยะทิ้งลงไปในเตาทันที ก็รู้ๆกันอยู่ว่าคนไทยไม่เคยแยกขยะก่อนทิ้ง แบบนี้อีกไม่นานเตาก็พังแถมเปลืองเชื้อเพลิง เพราะไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในเตาได้ ผมจึงปิ๊งไอเดียว่าโรงงานผลิตไบโอดีเซลและผลิตโรงไฟฟ้าต้องอยู่ด้วยกัน เพราะภายหลังจากการนำพลาสติกมาแปลงเป็นไบโอดีเซลจะได้แก๊สติดไฟได้ออกมาด้วย ซึ่งนั่นสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงตั้งต้นของโรงไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี” คณพจ เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์
คณพจ ระบุว่ามั่นใจในกระบวนการของจุฬา และเชื่อมั่นว่าวิธีไพโรไลซิสที่ใช้เพื่อให้ได้น้ำมันไบโอดีเซลออกมา มีข้อดีแตกต่างจากวิธีเดิมๆ คือ มันสะอาด และทุกอย่างถูกใช้ได้หมดเราจะไม่มีขยะพลาสติกเหลือ เพราะในขั้นตอนการผลิตไบโอดีเซลปกติจะได้กลีเซอรอลติดออกมาด้วย ทำให้เครื่องต้องผ่านการล้างน้ำที่ทำให้เสียทรัพยากรธรรมชาติ เสียเงิน และถ้าบำบัดไม่ดีมีการปล่อยออกสู่ระบบภายนอกสิ่งแวดล้อมก็จะเสียแต่นี่ไม่มี อีกทั้งแก๊สที่ได้เราก็สามารถนำมาหมุนเวียนใช้เป็นแก๊สเชื้อเพลิงเริ่มต้นสำหรับเตาปฏิกรณ์ได้ อีกทั้งยังได้น้ำมันที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับน้ำมันปิโตรเลียม
“ถึงที่เขาพูดมามันดูเหมือนขายฝัน แต่เขาเชื่อมั่นว่าจะทำมันได้สำเร็จ แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งประชาชนและรัฐบาล ที่ต้องฟังเหตุผลก่อนที่จะคัดค้าน เพราะปัญหาหลักของการจัดการขยะหรือการจะตั้งโรงไฟ้า คือการทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาการจัดการขยะของประเทศไทยในสายตาประชาชนมีภาพลักษณ์ไม่ดี แต่เขามั่นใจว่าสิ่งที่เขากำลังคิด จะช่วยแก้ปัญหาขยะในบ้านเราได้ไม่มากก็น้อย” คณพจ กล่าวทิ้งท้ายแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์