xs
xsm
sm
md
lg

กล้องคอมแพคสำหรับถ่ายดาว

เผยแพร่:   โดย: ศุภฤกษ์ คฤหานนท์

กล้องดิจิตอลคอมแพครุ่น Canon PowerShot G16
เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมาผมได้รับโทรศัพท์จากบริษัทแคนนอน แจ้งว่ามีกล้องคอมแพคตัวหนึ่งอยากให้เอาไปลองเล่นดู ซึ่งที่คุยกันทางบริษัทแจ้งว่าเป็นกล้องที่ถ่ายดาวได้ ถ่ายทางช้างเผือกก็ได้ มิหนำซ้ำยังถ่ายภาพแบบ Time Lapse Movie ได้อีกด้วย ความรู้สึกแรกผมก็คิดในใจว่า กล้องคอมแพคจะสามารถถ่ายได้จริงหรือ แล้วตอนถ่ายาภาพในช่วงเวลากลางคืนกล้องจะโฟกัสภาพอย่างไร ขนาดกล้องดิจิตอล SLR ยังโฟกัสในที่มืดแบบ “ระบบออโต้” ไม่ได้เลย แต่ก็ไม่เป็นไร ลองดู แล้วผมเองก็แจ้งกับทางบริษัทไว้ว่า ดีไม่ดีอย่างไรผมก็ว่าไปตามนั้น

หลังจากที่คุยกันผมก็ได้ลองค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ดูว่า เจ้ากล้องคอมแพคที่สามารถถ่ายดาวนั้นคือรุ่นอะไร และมีกล้องคอมแพคตัวไหนบ้างในท้องตลาดที่มันสามารถ่ายดาวได้อีก จากที่ค้นดูข้อมูลก็พบว่ามีช่างภาพหลายคนที่ได้ทดลองถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ แต่ยังไม่มีช่างภาพคนไทยคนไหนที่เคยเอาไปลองถ่ายดาวแบบจริงจัง จะมีก็แต่ช่างภาพต่างประเทศเท่านั้น และสำหรับคอลัมน์นี้ผมก็ขออนุญาตเล่าเรื่องการถ่ายดาวด้วยกล้องคอมแพคมารีวิวให้ดูกันว่ามันจะถ่ายได้ในระดับไหนบ้าง และเทคโนโลยีทางด้านการถ่ายภาพพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว

กล้องคอมแพค คือ อะไร
กล้องคอมแพค (ภาษาอังกฤษเขียนว่า Digital Compact) คือกล้องถ่ายรูปแบบดิจิตอล ที่ใช้ง่าย เป็นที่นิยมใช้งานในปัจจุบัน เนื่องจากใช้งานง่าย ราคาถูก ตัวเลนส์ติดกับตัวกล้องไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ รูปทรงของกล้องดิจิตอลชนิดนี้มีลักษณะที่แบนและบาง โดยปกติแล้วขนาดของกล้องประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ที่ใช้ รวมทั้งสื่อบันทึกข้อมูลด้วย ซึ่งกล้องประเภทนี้ถือเป็นกล้องที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เริ่มต้นหัดถ่ายภาพ เพราะจะมีฟังก์ชันในการทำถ่ายภาพที่ไม่ซับซ้อน สามารถถ่ายภาพได้รวดเร็ว และมีความสวยงามในระดับหนึ่ง ปัจจุบันกล้องดิจิตอลคอมแพค มีความสามารถสูงขึ้นใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอล SLR
กล้องดิจิตอลคอมแพคที่นำมาทดสอบมีความสามารถในการถ่ายภาพดวงดาวได้หลากหลายรูปแบบโดยอัตโนมัติ
สำหรับกล้องดิจิตอลคอมแพคที่ผมได้รับมานั้นมีชื่อรุ่นว่า Canon PowerShot G16 ทางบริษัทแคนนอนส่งมาให้ (โดยไม่มีคู่มือการใช้ติดมาด้วย...สงสัยลืม 555) ซึ่งผมมีเวลาทดลองถ่ายดาวอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ แต่ท้องฟ้าในช่วงเดือนพฤศจิกายนนั้น มีเพียงไม่กี่วันเท่านั้นที่พอจะถ่ายภาพได้ เนื่องจากอิทธิพลจาก "พายุไห่เยี่ยน" ทำให้ฟ้าปิดเสียส่วนใหญ่

ด้วยคุณลักษณะที่กล่าวข้างต้น ที่ว่ากล้องคอมแพคคือกล้องที่ใช้งานง่าย โดยในกล้องตัวนี้มีฟังก์ชันที่ใช้ในการถ่ายภาพดาว (Star Mode) คือความสามารถพิเศษที่กล้องตัวนี้ ที่ทางแคนนอนอยากให้ผมลองเอาไปถ่ายเล่นดูว่าสามารถใช้งานได้ดีจริงหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่มีกล้องดิจิตอลตัวไหนที่สามารถถ่ายภาพแบบอัตโนมัติแค่กดเพียงปุ่มเดียว ซึ่งหากใครที่เคยติดตามคอลัมน์บทความถ่ายภาพดาราศาสตร์ที่ผมได้เขียนไว้ก่อนหน้าเกี่ยวกับเทคนิคและวิธีการถ่ายภาพเส้นแสงดาว (Star Trails) ภาพทางช้างเผือก หรือแม้แต่ภาพวิวทิวทัศน์กับวัตถุท้องฟ้า นั้นก็จะมีเทคนิคและวิธีการตั้งค่าต่างๆ ซึ่งสำหรับผู้ที่ไม่เคยถ่ายภาพมาก่อนเลยก็อาจฟังดูยุ่งยากสักหน่อย แต่ด้วยความที่เป็นกล้องดิจิตอลคอมแพคกล้องตัวนี้จึงทำได้เพียงแค่ตั้งกล้องบนขาตั้งกล้อง แล้วเลือก SCN Mode > Star Mode ได้ตามความต้องการ ซึ่งมีทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้

1. Star Nightscape การถ่ายภาพกลุ่มดาวบนท้องฟ้าทั่วไป รวมทั้งทางช้างเผือก ในรูปแบบภาพเดียว
2. Star Trails การถ่ายภาพเส้นแสงดาว โดยสามารถตั้งเวลาถ่ายได้นานที่สุดถึง 2 ชั่วโมง จากนั้นซอฟต์แวร์ในตัวกล้องจะรวมภาพให้เป็นภาพเส้นแสงดาวแบบอัตโนมัติ ในรูปแบบไฟล์ JPEG
3. Star Time-Lapse Movie การถ่ายภาพท้องฟ้าหรือภาพอื่นๆ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือนานสุดที่ 2 ชั่วโมง จากนั้นซอฟต์แวร์ในตัวกล้องสร้างภาพที่ถ่ายทั้งหมดให้เป็นภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบวีดีโอแบบอัตโนมัติ

โดยในการทดสอบการใช้งานทางแคนนอน อยากให้ผมเน้นถ่ายภาพดวงดาว ในฟังก์ชัน Star Mode ซึ่งผมเองก็ได้ลองถ่ายทุกฟังก์ชัน และส่วนตัวผมเองคิดว่ามันใช้งานง่าย ตัดปัญหาของคนที่ไม่เคยถ่ายดาวเลยก็ถ่ายได้ การโฟกัสดาวที่เบลอไม่คมชัดหมดกังวลไปเลยเพราะกล้องจะโฟกัสที่ระยะอินฟินิตีให้โดยอัตโนมัติ รวมทั้งเรื่องของเวลาการเปิดหน้ากล้องและการตั้งค่าความไวแสง (ISO) ขนาดรูรับแสงอีกด้วย

สำหรับการถ่ายภาพ Star Mode กล้องจะทำงานแบบ Auto ทุกอย่าง รวมทั้งการแสดงภาพแบบ Live View ที่มีความไวแสงค่อนข้างมาก ทำให้สามารถจัดองค์ประกอบภาพได้ง่ายมาก เพราะจอสามารถแสดงให้เห็นจุดดาวอย่างชัดเจน ซึ่งต่างจากการมองผ่านจอ Live View ของกล้องดิจิตอล SLR ที่มีความสว่างค่อนข้างน้อย จุดนี้ส่วนตัวผมว่าน่าประทับใจมากครับ เพราะสามารถจัดองค์ประกอบภาพได้ง่าย
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด Star Nightscape ซึ่งเป็นการถ่ายภาพกลุ่มดาวบนท้องฟ้าทั่วไป โดยกล้องจะคำนวณเวลาในการเปิดหน้ากล้อง ว่าจะถ่ายได้นานที่สุดเท่าไรดาวถึงจะไม่ยืด รวมถึงความไวแสงในการถ่ายภาพอีกด้วย และนอกจากนั้นจากการสังเกตหลังจากที่กล้องถ่ายภาพกลุ่มดาวเสร็จแล้ว กล้องจะทำการถ่ายภาพ Dark Frame เพื่อนำไปลบสัญญาณรบกวนให้อีกด้วย (แต่จากภาพช่วงเวลาที่ถ่ายมีอุปสรรคของเมฆอยู่บ้างครับ)
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด Star Trails เป็นการถ่ายภาพเส้นแสงดาวในช่วงเวลา 1 ชั่วโมง โดยสามารถตั้งเวลาถ่ายได้นานที่สุดถึง 2 ชั่วโมง โดยซอฟท์แวร์ในตัวกล้องจะรวมภาพให้เป็นภาพเส้นแสงดาวแบบอัตโนมัติ ในรูปแบบไฟล์ JPEG โดยภาพที่ได้จะยังแสดงให้เห็นสีสันของแสงดาวได้อย่างชัดเจน  และนอกจากนั้น ถึงแม้ว่าเราจะตั้งเวลาถ่ายภาพไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่หากต้องการหยุดการถ่ายภาพด้วยเหตุผลของแสงไปหรือท้องฟ้าอาจมีเมฆมารบกวน เราก็สามารถหยุดการถ่ายภาพได้ทันที โดยภาพที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านั้นซอฟต์แวร์ก็จะรวมภาพให้เป็นภาพเส้นแสงดาวแบบอัตโนมัติให้เช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด Star Time-Lapse Movie เป็นการถ่ายภาพ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ ซึ่งถ่ายได้นานสุดที่ 2 ชั่วโมง แล้วซอฟท์แวร์จะนำภาพที่ถ่ายทั้งหมดมาสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบวีดีโอแบบอัตตโนมัติ
จากภาพตัวอย่างข้างต้นผมสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่า กล้องตัวนี้ได้นำเอาเทคนิคและวิธีของการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์มาไว้ในตัวกล้องเลยทีเดียว เช่น เทคนิคการถ่ายภาพ Dark Frame เพื่อใช้ในการลบสัญญาณรบกวนของภาพ การคำนวณช่วงเวลาการถ่ายภาพที่เหมาะสมกับทางยาวโฟกัสของเลนส์เพื่อไม่ให้ดาวยืดเป็นเส้น และอื่นๆ ล้วนแต่เป็นเทคนิคที่นักดาราศาสตร์ในการถ่ายภาพดวงดาวเกือบทั้งสิ้น

ที่น่าประทับใจอีกข้อคือ แบตเตอรี่กล้องดิจิตอลคอมแพคตัวนี้ “อึดดี” ตรงนี้ผมชอบมาก เพราะตอนแรกที่ได้รับกล้องมา ผมก็ได้มาแค่กล้องกับแบตเตอรีแค่ 1 ก้อน และแอบคิดว่า “จะพอสำหรับถ่ายเส้นแสงดาวหรือ ชั่วโมงเดียวแบตฯ ก็คงหมดแล้วมั้ง” แต่เท่าที่ผมลองใช้มาโดยการถ่ายภาพเส้นแสงดาว Star Trails มา 2 ชั่วโมง แล้วถ่าย Star Time-Lapse Movie อีก 2 ชั่วโมง และก็ไปถ่าย Star Nightscape เพื่อถ่ายดาวหางอีกเกือบชั่วโมง แบตเตอรี่จึงจะหมด ซึ่งรวมแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง โดยเทคนิคที่ทำให้ผมถ่ายได้นานขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะหลังจากที่ปรับตั้งโหมดการถ่ายภาพเสร็จ และจัดองค์ประกอบภาพเรียบร้อยแล้ว ผมก็ปิดการแสดงภาพที่จอ Display หลังกล้อง เพื่อให้กล้องถ่ายภาพไปเรื่อยๆ โดยไม่สิ้นเปลืองแบตเตอรี่

นอกจากนี้กล้องยังมีระบบการแสดงตัวอักษรที่มีสีแดง ซึ่งไม่รบกวนสายตาเหมาะกับใช้ในเวลากลางคืนอีกด้วย แต่ที่น่าเสียดายคือช่วงเวลาดังกล่าวใจกลางทางช้างเผือกตกไปพร้อมกับดวงอาทิตย์จึงไม่สามารถถ่ายภาพทางช้างเผือกได้ครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายดวงจันทร์ ที่สามารถวัดแสงได้อย่างแม่นยำโดยสามารถแสดงรายละเอียดของหลุมบนดวงจันทร์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งภาพนี้ผมได้ถ่ายผ่านช่องมองภาพของกล้องโทรทรรศน์
ตัวอย่างภาพถ่ายดวงจันทร์ ที่สามารถวัดแสงได้อย่างแม่นยำโดยสามารถแสดงรายละเอียดของหลุมบนดวงจันทร์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งภาพนี้ผมได้ถ่ายผ่านช่องมองภาพของกล้องโทรทรรศน์

สำหรับกล้องคอมแพคตัวนี้ผมขอยกให้เป็นกล้องคอมแพคที่ดีที่สุดของปีนี้ก็ว่าได้ เพราะว่าเหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียว คงไม่มีกล้องยี่ห้อไหนกล้าออกมาแข่งแน่ 555 (คงไม่ผิดนะครับถ้ากล่าวแบบนี้....)

นี่คือสิ่งที่ผมรู้สึกดีใจมากๆ เพราะปัจจุบันการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์นั้น ได้เริ่มมีคนให้ความสนใจกันมากขึ้นแล้ว ดังจะเห็นได้จากที่มีบริษัทที่กล้าผลิตกล้องที่มีความสามารถในการถ่ายภาพดาวออกมาอย่างนี้ ก็แสดงว่าผู้คนทั่วโลกเริ่มหันมาชื่นชอบถ่ายดาวกันมากขึ้นครับ...



เกี่ยวกับผู้เขียน

ศุภฤกษ์ คฤหานนท์

สำเร็จการศึกษาครุศาสตรบัณฑิต สาขาฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่สารสนเทศทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร., เคยทำวิจัยเรื่อง การทดสอบค่าทัศนวิสัยท้องฟ้าบริเวณสถานที่ก่อสร้างหอดูดาวแห่งชาติ มีประสบการณ์ในฐานะวิทยากรอบรมการดูดาวเบื้องต้น และเป็นวิทยากรสอนการถ่ายภาพดาราศาสตร์ในโครงการประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ประจำปี 2554 ของ สดร.ในหัวข้อ “มหัศจรรย์ภาพถ่ายดาราศาสตร์ในเมืองไทย”

“คุณค่าของภาพถ่ายนั้นไม่เพียงแต่ให้ความงามด้านศิลปะ แต่ทุกภาพยังสามารถอธิบายด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย”

อ่านบทความ ศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ทุกวันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน







กำลังโหลดความคิดเห็น