xs
xsm
sm
md
lg

"ทีเซลส์" แนะใช้ "จุลินทรีย์" กำจัดคราบน้ำมันดีกว่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทหารเรือร่วมกันทำความสะอาดคราบน้ำมัน (รอยเตอร์)
TCELS - ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ ห่วงผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วในทะเลบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง จึงได้มอบหมายให้ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ให้ความรู้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ในการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพอันเกิดจากคราบน้ำมัน

นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) กล่าวว่า สารเคมีประกอบด้วยหลายอย่างที่ซับซ้อน ซึ่งมีส่วนที่เป็นพิษ (Toxic compounds) มีสิ่งที่จะส่งผลกระทบได้เยอะมากกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ดังนั้น กระบวนการกำจัดจึงต้องวางแผนให้ดีอย่างรอบคอบ เป็นขั้นตอน แต่ก็รอช้าไม่ได้เพราะผลกระทบต่อชีวิตทั้งในทะเลและบนบกจะเกิดขึ้นทันที

ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติกล่าว อาหารทะเลจะได้รับสารพัดสารเคมีที่มีอยู่ในน้ำมันดิบ โดยเฉพาะสารพิษในกลุ่ม ไฮโดรคาร์บอน เช่น “พีเอเอช" (PAHs) ซึ่งสิ่งมีชีวิตในทะเลที่หากินอยู่บริเวณที่มีน้ำมันรั่วก็มีสิทธิ์ปนเปื้อนสูง และสารพิษจะสะสมอยู่ในไขมันปลา, ไข่ปลา, ไข่กุ้ง, ไข่ปู ตามองคาพยพหลายส่วนของสัตว์น้ำ และเมื่อสัตว์น้ำตายจากพิษน้ำมันดิบ มนุษย์ที่จับเหล่านี้ขึ้นมากินก็มีสิทธิ์ได้รับช่วงสารเคมีที่ว่านี้ต่อเช่นกัน

“อย่าลืมว่าน้ำมันดิบไม่ได้จับอยู่แค่ผิวหน้ามหาสมุทรเท่านั้น ที่ท่านเห็นกระเพื่อมดำมะเมื่อมอยู่นั้นเป็นเพียงส่วนเดียว แต่ยังมีส่วนที่ทำปฏิกิริยากับแสงแดด จนเปลี่ยนเป็นสารพิษอันตราย และพิษอีกส่วนก็ระเหย นสู่อากาศ ดังนั้นมันจะกลายเป็นมลภาวะที่เรามองไม่เห็นแต่ สูดได้ เข้าไปในทางเดินหายใจ พิษพวกนี้เข้าไปกวนได้ถึงระดับ “ดีเอ็นเอ" (DNA) ในเซลล์สิ่งมีชีวิต ส่วนไอระเหยน้ำมันรั่วถ้าสัมผัสก็ทำให้เกิดอาการแสบหูแสบตาระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อน, เจ็บคอและแสบจมูกเมื่อสูดเข้าปอดและส่วนหนึ่งทำอันตรายระบบประสาท ทำให้มีคลื่นไส้อาเจียนได้ด้วย” น.พ.กฤษดา กล่าว

ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ฯ กล่าวต่อว่า ผลกระทบเป็นวงกว้างคือ สัตว์ทะเลจะลดลง เนื่องจากไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ สารพิษทั้งหลายที่เกิดจากน้ำมันดิบก็ทำให้มันค่อยๆ พากันตายลง การทำประมงรวมถึงแหล่งประมงที่มีจำกัดอยู่แล้วก็จะยิ่งน้อยลง จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลผลิตที่ได้จะหายไปมาก อาหารที่จะมาจุนเจือเลี้ยงคนก็ลดลงตามไปด้วย

นอกจากนี้ นพ.กฤษดากล่าวว่า ชีวิตผู้คนแถบริมทะเล เช่น ป่าชายเลน สัตว์น้ำ รวมถึงนก ปลาโลมา และเต่าทะเลที่หากินตามชายฝั่งที่ใกล้สูญพันธุ์ ระบบนิเวศ จะได้รับผลกระทบโดยตรง และในภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็จะมีปัญหา ที่ต้องเร่งเยียวยาทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว นอกจากนี้สิ่งที่ไม่ควรลืมคือ ผลกระทบต่อสภาพจิตใจของคน จากภาวะตกงาน ธุรกิจฟุบ หมดแหล่งทำมาหากิน อาหารการกินร่อยหรอ การแก้ปัญหาจึงต้องเร่งฟื้นฟูจิตใจในรายที่มีภาวะเครียดและซึมเศร้าแฝงมาด้วย

"การวางแผนแก้ไขและฟื้นฟู ไม่เพียงแต่เร่งขจัดด้วยวิธีไฮเทคใช่ว่าจะดีเสมอไป อาจทำให้ยิ่งแย่หนักกว่าเดิมได้ ทั้งนี้ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณของน้ำมัน, ชนิดของน้ำมัน, กระแสน้ำ. กระแสลมและสถานที่นั้นๆ หนึ่งในวิธีที่ช่วยล้างพิษของน้ำมันรั่วที่เริ่มใช้กันมากคือใช้ “จุลินทรีย์” ช่วยเก็บกวาด" นพ.กฤษดากล่าว

พร้อมบอกอีกว่า มีการศึกษาถึงจุลินทรีย์ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า อัลคานิวอแรกซ์ บอร์กูเมนซิส (Alcanivorax borkumensis) เป็นจุลินทรีย์ช่วยย่อยไฮโดรคาร์บอนคราบน้ำมัน โดยใส่จุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยคราบน้ำมันลงไป แล้วปล่อยให้ทำงานสลายน้ำมันที่เลอะเทอะนี้ไปเรื่อยจนหมด

"เคยมีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่อ่าวเม็กซิโก ก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้ในการแก้ไขปัญหา ดังนั้นทางเดียวที่จะทำได้ในตอนนี้คือต้องช่วยกันมองให้รอบ ถึงผลกระทบของน้ำมันที่อาจมีได้ในทุกด้าน ยิ่งมองได้กว้างเท่าไรก็ยิ่งตีกรอบแก้ปัญหาให้ครอบคลุมเท่านั้น เพราะถ้ากลับมามองให้ดีว่าน้ำมันดิบก็เป็นของธรรมชาติ ดังนั้นก็น่าจะใช้ธรรมชาติด้วยกันช่วยปราบ" นพ.กฤษดาแนะ







กำลังโหลดความคิดเห็น