ผู้บริหาร “พีทีที โกลบอล” ยอมรับยังพบคราบน้ำมัน “อ่าวพร้าว” หลังเกิดเหตุท่อน้ำมันรั่ว มั่นใจดำเนินการเก็บกู้คราบน้ำมันแล้วเสร็จในวันนี้ ด้านราคาหุ้น PTTGC ปิดร่วง 1.69% หนักกว่าตลาด คาดวิตกค่าใช้จ่าย และอาจโดนฟ้องร้อง
นายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า มีคราบน้ำมันไหลเข้าบริเวณชายฝั่งอ่าวพร้าว บนเกาะสเม็ด จ.ระยองเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังวันเสาร์ที่ผ่านมาเกิดเหตุท่อรับน้ำมันดิบของบริษัทรั่วในทะเล ทั้งนี้บริษัทจะเร่งดำเนินการกำจัดคราบน้ำมันดังกล่าวให้เร็วที่สุด และจะเข้าไปเก็บตัวอย่างคราบน้ำมันดังกล่าวเพื่อมาตรวจสอบต่อไป ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่ขับเรือลาดตระเวน และเครื่องบินที่บินตรวจสอบยังไม่พบเห็นคราบน้ำมันดังกล่าว ขณะที่บริษัทยังไม่ได้ประเมินค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วครั้งนี้
ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุท่อรับน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้ว รั่วที่บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 20 กิโลเมตร ขณะกำลังมีการส่งน้ำมันมายังโรงกลั่นน้ำมันของ PTTGC โดยบริษัทระบุว่า มีน้ำมันดิบรั่วออกมาประมาณ 5 หมื่นลิตร ในทะเล โดยตลอดช่วงวันเสาร์ และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา PTTGC ได้เร่งกำจัดคราบน้ำมันให้อยู่ในจุดที่สามารถควบคุมได้ จนปริมาณคราบน้ำมันได้มีขนาดเล็กลง ส่วนน้ำมันดิบได้ถูกสลายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นฟิล์มน้ำมันบางๆ เท่านั้น
ด้านเจ้าหน้าที่ PTTGC เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหาร 300 นาย กำลังช่วยกันกำจัดคราบน้ำมันที่พัดเข้าชายฝั่ง ซึ่งบางส่วนเข้าไปติดอยู่ในหิน และทราย ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการกำจัดคราบน้ำมัน นอกจากนี้ ยังจะมีเจ้าหน้าที่ทหารอีก 200 นาย เข้ามาร่วมกำจัดคราบน้ำมันดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย ซึ่งนายบวร มั่นใจว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันนี้
ขณะที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการต่อ PTTGC เพื่อเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เสียหายไป หากรัฐบาลไม่ดำเนินการ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนจะใช้สิทธิทางศาลแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบดังกล่าว โดยการยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อบังคับให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายข้างต้น
ด้านราคาหุ้น PTTGC ปิดครึ่งวันเช้าที่ 72.75 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือเปลี่ยนแปลง -1.69% ปรับตัวลงมากกว่าตลาดโดยรวมที่ลบ 1.43% และมีมูลค่าซื้อขายติด 1 ใน 10 ของวันนี้ ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ยอมรับว่า ราคาหุ้นที่ร่วงลงอาจเป็นเพราะตลาดมีความวิตกผลกระทบจากค่าใช้จ่ายกรณีการแก้ไข และการถูกฟ้องร้องค่าเสียหายจากเหตุน้ำมันรั่วดังกล่าว